สอนจัดเซตสุดคุ้ม ขายดีไม่ต้องหาลูกค้าเพิ่ม ออร์เดอร์ถล่มทลายยอดขายปัง

"โค้ชกับโค้ก" วันนี้เราจะมาเปิดเคล็ดลับและช่องทางที่จะทำให้ทุกคนสามารถเพิ่มยอดขายและขายดีไปพร้อมกันด้วยการสอนจัด "เซตสุดคุ้ม" ขายดีได้แบบไม่ต้องหาลูกค้าเพิ่ม!

เชื่อว่าสถานการณ์ที่ผ่านมาเจ้าของร้านทุกคนก็คงจะต้องผ่านการคิดมามากมาย ทั้งวิธีคิดวิธีการที่จะทำเพื่อให้ผ่านช่วงเวลาวิกฤติไปได้ แต่หลายครั้งเนี่ยมันก็ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้จริงมั้ยครับ? ยิ่งปัจจุบันเนี่ยต้นทุนวัตถุดิบที่สูงมากขึ้นด้วย ครั้นที่เราจะไปปรับราคาขายขึ้นเรื่อย ๆ เลยมันก็คงกระทบกับลูกค้าแน่นอน แต่เราจะมีวิธีการยังไงล่ะ ที่เราจะสามารถสร้างยอดขายได้โดยที่เราไม่ต้องขึ้นราคาขาย วันนี้ผมเลยอยากจะมาแชร์เทคนิคที่ทำให้ทุกร้านอาหารสามารถเพิ่มยอดขายได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องเพิ่มจำนวนลูกค้าด้วยกลยุทธ์การจัดเซตเมนูกระตุ้นยอดขาย ใครอยากรู้ตามมาดูพร้อมกันเลยครับ!

ก่อนอื่นต้องบอกว่ากลยุทธ์การจัดเซตเมนูถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์เพื่อกระตุ้นยอดขาย จริง ๆ แล้วจุดประสงค์ของการจัดเซตเมนูเนี่ย เพื่อทำให้ลูกค้าจ่ายเงินมากกว่าที่เขาตั้งใจไว้ ซึ่งก่อนที่เราจะจัดเซตเมนู สิ่งแรกที่เราต้องรู้ก่อนก็คือ โดยปกติยอดขายเฉลี่ยลูกค้า 1 คนของร้านเรา หรือเราเรียกภาษาอังกฤษว่า “Average Check” ยกตัวอย่างเช่น ร้าน ก. มียอดขายเฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 100 บาท หน้าที่ของร้านเราคือการทำเซตเมนูให้ลูกค้าจ่ายเงินมากกว่า 100 บาทให้ได้ นอกจากที่จะทำให้ร้านเราได้ยอดขายมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มจำนวนลูกค้าแล้ว ยังทำให้ลูกค้าเก่ามีโอกาสกลับมาสั่งร้านเราซ้ำมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

1. ขายแบบแพ็คคู่ดูโอ้

เริ่มที่วิธีการแรกกันเลยดีกว่า ประเดิมด้วยกลยุทธ์แรกคือการขายแบบแพ็คคู่ดูโอ้ ซึ่งหลักของการขายแบบนี้ก็คือการที่เราเลือกเมนูที่เราคิดว่าขายดีที่สุดในร้านเอามาเป็นตัวตั้งก่อน แล้วเราก็ไปเลือกเมนูที่รองลงมา อาจจะขายดีรองลงมาหรืออาจจะเป็นเมนูที่เราคิดว่ามันอร่อยแล้วก็กำไรเราเยอะ เราก็มาจัดเป็นแพ็คคู่กัน ซึ่งในการจัดหาคู่เราอาจจะมีการลดราคาเล็กน้อย เพื่อทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น

โดยยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราต้องการให้ลูกค้าสั่งออร์เดอร์แล้วเก็บไว้กินได้ 2 มื้อแล้ว อาจจะจับเมนูที่ขายดีอย่างกะเพราหมูกรอบ ราคา 60 บาท มาคู่กับข้าวผัดหมู ราคา 50 บาท ขายคู่กันเราลดราคาเหลือ 99 บาท ก็จะมีโอกาสทำให้ลูกค้าสั่งง่ายมากขึ้น หรืออีกวิธีหนึ่งเราไม่ต้องการให้ลูกค้าเก็บไว้กิน 2 มื้อแล้วกินมื้อเดียวกันเลยจะทำให้เขารู้สึกคุ้มค่า เราก็ควรจะเลี่ยงเมนูที่คิดว่ากินคู่กันได้ ยกตัวอย่างเช่น พิซซ่า ราคา 200 บาท กับไก่ทอด ราคา 100 บาท รวมราคา 300 บาท เราก็จะลดราคาลง 21 บาท เหลือ 279 บาท

ในมุมลูกค้า ลูกค้าเขาก็รู้สึกคุ้มมากขึ้นเพราะเขาได้ราคาลด ในมุมร้านค้าเราก็เพิ่ม Average Check หรือราคาขายต่อหัวแล้วขึ้นไปได้ แต่อย่าลืมนะ เราลดราคาให้ลูกค้าระดับหนึ่ง ฉะนั้นก่อนที่จะจับคู่เมนูไหนก็ตามคำนวณต้นทุนราคาขายให้ดีว่าหลังจากเราลดราคาไปแล้วเนี่ย กำไรเรายังเหลืออยู่หรือเปล่า เพราะไม่งั้นมันจะกลายเป็นยิ่งขายยิ่งขาดทุนเอาได้ครับ  

2. จัดเซตเมนูอาหารพร้อมเครื่องดื่ม 

การจัดเซตเมนูแบบต่อไปเป็นวิธีที่ผมว่าทุกร้านอาหารสามารถใช้ได้แล้วมันง่ายที่สุด ซึ่งผมเองก็ใช้วิธีนี้คือการจัดเซตเมนูอาหารบวกกับเครื่องดื่มที่บอกว่ามันง่ายเพราะมันเป็นเมนูที่เตรียมการน้อยที่สุด ยกตัวอย่าง เช่น กระเพราหมูกรอบขายคู่กับโค้ก บอกว่ากินกับอะไรก็อร่อย เชื่อว่าร้อยทั้งร้อยลูกค้าต้องซื้อเครื่องดื่มเพื่อกินกับอาหารแน่นอนครับ 

3. การจัดเซตเมนูแบบปาร์ตี้เซตหรือเซ็ตอิ่มคุ้ม

เทคนิคสุดท้ายในการจัดเซตเมนูนะครับ เป็นเทคนิคที่ผมชอบสั่งที่สุดเลย คือ การจัดเซตเมนูแบบปาร์ตี้เซตหรือเซตอิ่มคุ้มถูกใจ วิธีการเนี่ยมันจะเหมาะกับการสั่งไปกินกับครอบครัวหรือเพื่อน ที่ปกติมักจะทะเลาะกันว่าฉันจะกินอันนี้ แกจะกินอันนี้ วิธีการนี้ไม่ต้องทะเลาะกัน จัดเซตเมนูแบบปาร์ตี้เซตไปเลย

นอกเหนือจากลูกค้าจะได้ราคาที่คุ้มค่าถูกลงแล้วเนี่ย ร้านเองก็วางแผนจัดการสต๊อก วางแผนการเตรียมวัตถุดิบได้ง่าย สามารถเพิ่ม Basket Size ให้ใหญ่มากกว่าปกติ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราเป็นร้านอาหารอีสานประเภทพวกร้านส้มตำ เราก็รู้อยู่แล้วว่าลูกค้าต้องสั่งอะไร เช่น ส้มตำ ต้มแซ่บ ลาบ ข้าวเหนียว ซุปหน่อไม้ และที่สำคัญก็ขายคู่กับโค้กไปด้วย วิธีการนี้ลูกค้าก็ไม่ต้องคิดแล้วว่าฉันจะสั่งอะไร เขาจะสั่งเซตเมนูเป็นเซตใหญ่ก่อน เสร็จแล้วอยากจะสั่งอะไรเพิ่ม เขาค่อย Add ทีละอย่าง วิธีการนี้จะทำให้ร้านค้าได้ Basket Size ใหญ่เลย และลูกค้าเองก็จะประหยัดเวลาในการสั่งไปด้วย 

เทคนิคการเพิ่มตัวเลือกอาหารในหน้าการสั่งซื้อ

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้นะครับ ผมยังมีทริคเล็ก ๆ จาก Wongnai Merchant App ที่จะทำให้คุณขายได้มากขึ้นอีก นั่นคือเทคนิคการเพิ่มตัวเลือกอาหารในหน้าการสั่งซื้อ ฟังดูอาจจะงงนะ มันคือการที่ลูกค้าสั่งเมนูอะไรก็ตามเราสามารถกดเพิ่มตัวเลือกอาหารลงไปได้จริง ๆ

จุดประสงค์ของการเพิ่มฟังก์ชันตัวเลือกอาหาร คือ การให้ลูกค้า Add Topping ที่คิดว่าลูกค้าน่าจะสั่งซื้อพร้อมกัน ยกตัวอย่างเช่น เราเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว แล้วลูกค้ากดสั่งเมนูเส้นเล็กต้มยำหมูสับ โดยเราสามารถเพิ่มเมนูรองเข้าไปได้ ซึ่งเมนูรองอาจจะเป็นราคาที่เบากว่า ถึงแม้ว่าลูกค้าไม่สั่งก็ไม่เป็นไร แต่เมื่อไรลูกค้าเผลอกดสั่ง เงินเข้ากระเป๋าเราทันที 

ร่วมแคมเปญอร่อยซ่า เพิ่มยอดขายได้ปังกว่าเดิม!

แน่นอนวันนี้ผมไม่ได้มามอบเทคนิคในการเพิ่มยอดขายผ่านเซตเมนูเท่านั้น แต่เรามีความตั้งใจอยากให้ทุกร้านขายดีไปด้วยกัน ผมเลยอยากจะมาบอกช่องทางลัดในการเพิ่มยอดขายกับทุกคน นั่นก็คือ การมา "ขายกับโค้ก" แค่เลือกเมนูเด็ดของร้านคุณ แล้วมาร่วมแคมเปญอร่อยซ่ากับโค้กเท่านั้น ซึ่งแคมเปญนี้จะช่วยให้ร้านของเราขายดีขึ้นแล้วได้กำไรมากขึ้นยังไง เดี๋ยวเราไปดูกันครับ

วิธีการจับคู่เมนูเด็ดก็ง่าย ๆ เลย คุณแค่กดปุ่มเพิ่มเมนูร้าน Add Coke ที่ร้านขายอยู่แล้วเข้าไป จากนั้นลองกดเพิ่มเมนูลัดจับคู่เมนูที่เราต้องการขายกับเครื่องดื่มโค้ก แค่นี้คุณก็ได้เข้าร่วมโครงการอร่อยซ่ากับโค้กเรียบร้อย แต่ต้องบอกนิดนึงว่า ร้านจะต้องเข้าร่วมโครงการ ต้องเข้าร่วมค่าส่งกับ LINE MAN หรือเป็นร้านที่มี GP อยู่แล้ว ถ้าเป็นร้านที่สมัครใหม่ อาจจะใช้เวลาอนุมัตินิดนึงครับ

เมื่อร้านเข้าร่วมแคมเปญอร่อยซ่ากับโค้กเรียบร้อยแล้ว สิ่งแรกที่ร้านได้เลยนะ คือ การเพิ่มช่องทางการขายออนไลน์ โดยเราจะมีเป็นเทมเพลตที่สวยและดูดี พร้อมใช้งานได้ แค่กดปุ่มแชร์ ชอบอันไหนก็ดาวน์โหลดไปใช้ได้เลย เอาไปใส่กับเมนูสวย ๆ ของร้าน รับรองว่าคนกดไลก์ในออนไลน์เพิ่มขึ้นแน่นอน

ขั้นตอนต่อไปเนี่ยถูกใจผมอย่างมาก เชื่อว่าถูกใจร้านอาหารทุกคนแน่นอน เพราะว่าเราจะได้รับการโปรโมททั้งจากแอปวงใน แล้วก็ LINE MAN อย่างเต็มสูบเลย เวลาลูกค้าเข้าแอป ร้านเราก็จะขึ้นอันดับการมองเห็นแรก ๆ รวมไปถึงเราก็จะอยู่ใน Coke Recommended ซึ่งเป็นหมวดหมู่ใหม่ ถือว่าเป็นการเพิ่มโอกาสการขายโดยที่เราไม่ต้องเสียเงินอะไรเพิ่มเลย และไอคอนของร้านเองก็จะมีสัญลักษณ์อร่อยซ่ากับโค้ก ช่วยการันตีความอร่อย ยังไม่พอ หากลูกค้าของร้านต้องการซื้อเมนูอร่อยซ่ากับโค้ก ก็สามารถรับโค้ดส่วนลด มูลค่า 30 บาท เพียง Add LINE : Coca Cola แต่ต้องซื้อไม่น้อยกว่า 99 บาทนะ 

ยังไม่หมด แต่ละเดือนก็จะได้รับเครดิตในการโฆษณา มูลค่า 200 บาท ฟรี! เพื่อเอาไปช่วยโปรโมทใน App LINE MAN นอกจากนี้หากร้านของเราสามารถทำออร์เดอร์อร่อยซ่ากับโค้ก ได้เกิน 15 ออร์เดอร์ต่อเดือน ก็จะได้รับเครดิตเพิ่มไปอีก 300 บาท ฟรี!

บอกเลยว่าถ้าคุณเอาเทคนิคที่ผมได้สอนทั้งหมด ในเรื่องการจัดเซตเมนูไปรวมกับการเข้าร่วมแคมเปญอร่อยซ่ากับโค้กไปใช้ รับรองว่าขายดีแน่นอน เพราะนี่คือเทคนิคที่การันตีว่ายังไงคนขายดีขึ้น! อยากให้ทุกคนลองเอาไปใช้กันดู และในวันนี้เราเข้าใจเทคนิคการจัดเซตเมนูเพื่อขายดีขึ้นแล้ว สำหรับใครที่สงสัยในเรื่องการตั้งราคาขาย EP. หน้าผมจะมาเล่าให้ฟังเรื่องเทคนิคการตั้งราคายังไงให้ได้กำไร อย่าลืมติดตามรายการโค้ชกับโค้กได้ใหม่ใน EP. หน้าครับ