แกะสูตรกลยุทธ์การตลาดฉบับ Culinary Class Wars

LINE MAN พาพ่อค้าแม่ค้าทันกระแสซีรีส์ทำอาหาร แกะกลยุทธ์ปรับร้านให้ปังขึ้น พ่อค้าแม่ค้าห้ามพลาด!

กระแสมาแรงจนฉุดไม่อยู่ “ซีรีส์ Culinary Class Wars” กำลังเป็นที่นิยมในช่วงนี้ วันนี้ LINE MAN จะพามาเปิดกลยุทธ์ที่อยู่ภายใต้การแข่งขันทำอาหารที่ดุเดือดในรายการ พ่อค้าแม่ค้าเตรียมจดแล้วนำไปใช้ที่ร้าน พร้อมเพิ่มยอดขายให้พุ่งปังกันเลย!

ซีรีส์ Culinary Class Wars คือรายการเรียลลิตี้ในประเทศเกาหลีใต้จาก Netflix ที่ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนจะแข่งกันทำอาหาร ซึ่งในตอนที่ 9 ของรายการได้มีการแข่งขันในรูปแบบทีม โดยแบ่งออกเป็น 4 ทีม และทุกทีมจะต้องแข่งกันเปิดร้านอาหาร และเสิร์ฟอาหารให้แก่ลูกค้า หากทีมไหนได้ยอดขายสูงสุดจะเป็นผู้ชนะ ส่งผลให้หลายทีมต้องคิดวิธีการขายอาหารที่ดึงดูดให้ลูกค้ามาซื้อร้านของตัวเองมากที่สุด ซึ่งลูกค้าก็คือกลุ่มคนที่ชอบทานอาหาร และแต่ะละคนจะได้รับเงินในการซื้ออาหารคนละ 1 ล้านวอน หรือประมาณ 25,000 บาท ไปดูกันว่าผู้เข้าแข่งขันทั้ง 2 ทีมจะใช้กลยุทธ์อะไรบ้างในการดึงดูดลูกค้า และกลายเป็นทีมที่ชนะ! (จากนี้ จะมีการเล่าถึงเนื้อหาในรายการ ใครยังไม่ได้ดู โปรดระวังการสปอย)

1. นำเสนออาหารที่เหมาะสมกับกลุ่มหมาย

อย่างที่ได้กล่าวไปว่าลูกค้าได้รับเงินจำนวนมากสำหรับการใช้ซื้ออาหาร เรียกง่าย ๆ ว่าลูกค้ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังในการซื้อมาก ส่งผลให้อาหารที่ลูกค้าคาดหวังจะต้องสมราคา มีความพรีเมียมน่าดึงดูด เช่น ทีมร้านอาหารคนขับอภิมหารวยที่ได้ทำเมนู “จัมปงล็อบสเตอร์” ขาย ทำให้ดึงความสนใจ ให้ลูกค้าสั่งเมนูนี้เป็นจำนวนมากนั่นเอง ดังนั้น เราควรเริ่มจากการเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย รวมไปถึงความคาดหวัง และความต้องการของลูกค้า เพื่อที่จะได้นำเสนอให้ตรงกับความต้องการของพวกเขานั่นเอง

2. หน้าตาอาหารดี มีชัยไปกว่าครึ่ง

หน้าตาของอาหารมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้าตั้งแต่ก่อนซื้อจนหลังการซื้อ อย่างในการแข่งขัน ลูกค้าทุกคนจะได้รับแท็บเล็ตในการใช้สั่งซื้ออาหาร ซึ่งแสดงว่าลูกค้าจะเห็นอาหารของร้านจากรูปภาพเพียงอย่างเดียว รูปภาพจึงมีผลต่อการสั่งซื้อมาก หากรูปภาพไม่น่าดึงดูดมากพอ ลูกค้าก็อาจจะเปลี่ยนใจไปซื้อร้านอื่น และเมื่อลูกค้าได้รับอาหารจริงหลังจากที่ซื้อมาแล้ว แล้วอาหารดูน่าทาน ตรงปก ลูกค้ารายอื่นที่เห็นก็จะสนใจ หรือมีการบอกต่อเกิดขึ้นได้ เป็นการดึงดูดลูกค้าใหม่ทางอ้อท และอยากเข้ามาซื้อทานตามที่ร้าน ดังนั้นพ่อค้าแม่ค้าอย่าลืมที่จะออกแบบหน้าตาของเมนูอาหารให้น่าทาน พร้อมกับถ่ายรูปออกมาให้สวยงาม และที่สำคัญต้องตรงปกด้วย!

3. หมั่นพัฒนาร้านอยู่เสมอ

ร้านควรปรับปรุง หรือพัฒนาอาหารจากคำแนะนำของลูกค้าอยู่เสมอ รวมถึงต้องหมั่นสังเกตการทานอาหารของลูกค้า เพื่อที่จะได้พัฒนาอย่างทันท่วงที อย่างทีมร้านลุงจางที่มีการปรับเมนูสเต๊กของร้านให้เคี้ยวง่ายขึ้นหลังจากที่ลูกค้ามีคอมเมนต์บอกว่าสเต๊กเหนียวไป หรือการที่ คุณ Jung Ji-sun ร้านอาหารจีนทริปเปิลสังเกตว่าลูกค้าทานซอสติ่มซำจนหมด จึงเพิ่มซอสให้ลูกค้ามากกว่าเดิม ถือเป็นการสร้างความประทับใจให้ลูกค้า ดังนั้นพ่อค้าแม่ค้าก็ต้องไม่ลืมฟังคำแนะนำจากลูกค้า เพื่อนำมาพัฒนาให้ร้านตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างตรงจุด รวมทั้งยังต้องบริหารจัดการระบบของร้านให้ดี มีการวางระบบ หรือขั้นตอนในการทำงานภายในร้าน เพื่อการทำงานที่ราบรื่น เพราะหากผู้เข้าแข่งขันทำอาหารช้าก็จะมีผลต่อความพึงพอใจของลูกค้า ความรวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ครองใจลูกค้าได้ รวมถึงร้านควรเตรียมแพ็กเกจจิงสำหรับใส่อาหารไว้ล่วงหน้า โดยเฉพาะการส่งอาหารเดลิเวอรีที่ต้องส่งอาหารให้ไว เพื่อให้ลูกค้าประทับใจที่ได้รับอาหารเร็วขึ้น

จบไปแล้วกับกลยุทธ์การตลาดจากซีรีส์ Culinary Class Wars ยอดฮิต พ่อค้าแม่ค้าอย่าลืมจดไปทำตามกัน รับรองยอดขายปังกว่าเดิมแน่นอน! 

บทความแนะนำเพิ่มเติม