วางแผนการตลาดได้ปังกว่าเดิม
การวางแผนการตลาดให้ดี และถูกต้อง มีผลอย่างมากกับยอดขาย ซึ่งก่อนจะวางแผนนั้น พ่อค้าแม่ค้าต้องรู้ และเข้าใจสินค้าที่ตนเองขาย วันนี้ Wongnai for Business ได้นำเคล็ดลับปั๊มยอดขายให้ปังยิ่งขึ้น กับทฤษฎีวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ (Product Life Cycle) อย่ารอช้า ไปดูกันเลย!
วงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ (Product Life Cycle) คืออะไร ?
วงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ (Product Life Cycle) คือ ทฤษฎีที่แสดงให้เห็นถึงการเจริญเติบโต และเปลี่ยนแปลงของสินค้าที่คุณขาย ไม่ว่าจะเป็น ยอดขาย ความต้องการของลูกค้า และกำไร เช่นเดียวกับวงจรชีวิตของมนุษย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ สินค้าหรือเมนูที่คุณขาย ก็ล้วนมีวงจรชีวิตของมันเช่นกัน โดยทฤษฎีนี้ พ่อค้าแม่ค้าจะเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น ว่าตนควรวางแผนการตลาด และขายสินค้าอย่างไรจึงจะมีประสิทธิภาพที่สุด
เจาะลึกแต่ละช่วงในวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ (Product Life Cycle)
1. ช่วงแนะนำ (Introduction)
จุดเริ่มต้นของหลาย ๆ ร้าน มักจะเป็นการเปิดร้าน และขายเมนูอาหารที่วางแผนไว้ เมื่อเริ่มขาย นั่นหมายความว่าเมนูอาหารนั้นของร้านคุณได้เข้าสู่ช่วงแนะนำสู่ตลาดเรียบร้อย ในช่วงนี้ ความต้องการของลูกค้ายังต่ำอยู่ เนื่องจากหลาย ๆ คนยังไม่รู้จัก หรือรับรู้ถึงการมีอยู่ของร้าน ยอดขายจึงยังต่ำ และทำกำไรได้ไม่มาก การลงทุนในด้านดังกล่าวจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ เพื่อที่จะดันสินค้าของคุณให้ไปสู่ช่วงต่อไปของวงจร
การลงทุนเหล่านี้ สามารถทำให้ลูกค้าเริ่มรับรู้ถึงการมีอยู่ของร้านคุณ ได้รับข้อมูลสินค้า และสร้างความประทับใจแรก ยิ่งลูกค้าเห็นมากเท่าไหร่ ร้านของคุณจะยิ่งมีโอกาสดันสินค้าไปสู่ช่วงถัดไปของวงจรผลิตภัณฑ์มากขึ้นเท่านั้น
2. ช่วงเติบโต (Growth)
เมื่อเปิดการมองเห็นในช่วงแนะนำแล้ว ลูกค้าจึงจะเริ่มสนใจลองอุดหนุนร้านของคุณ ในช่วงนี้ ยอดขายของคุณ และฐานลูกค้าใหม่จะเพิ่มขึ้นไวมาก รวมถึงกำไรที่เริ่มโตขึ้นเพราะค่าใช้จ่ายลด เนื่องจากการผลิตขายเป็นจำนวนมาก ดังนั้น การลงทุนต่อมาที่คุณไม่ควรมองข้ามนั่นคือ การขยายร้าน และช่องการทางขายสินค้าที่เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่กำลังเติบโต
ยกตัวอย่างเช่น คุณเริ่มขายอาหาร และขายผ่านหน้าร้านเท่านั้นในช่วงแรก เมื่อออร์เดอร์ และฐานลูกค้าโตขึ้น คุณจึงเปิดขายผ่านแอปเดลิเวอรี LINE MAN เพื่อรองรับออร์เดอร์อย่างทั่วถึง อีกทั้งยังช่วยให้ร้านไม่พลาดโอกาสจากกลุ่มลูกค้าที่ต้องการอุดหนุน แต่ไม่สะดวกมาทานที่ร้าน เพียงไม่กี่คลิก อาหารของคุณก็ถูกส่งออกไปถึงลูกค้าทุกท่าน ไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหนก็ตาม!
3. ช่วงอิ่มตัว (Maturity)
เมื่อเติบโตมาจนถึงจุดหนึ่งแล้ว ร้านอาหารของคุณก็จะมีอัตรากับเจริญเติบโตที่ช้าลง ช่วงอิ่มตัวนี้ ยอดขายของคุณ และกำไรจะสูงอย่างมั่นคง เนื่องจากการเพิ่มจำนวนของลูกค้าใหม่ และการซื้อซ้ำของฐานลูกค้าที่มีอยู่แล้วนั่นเอง! เป็นช่วงที่คุณจะได้กอบโกยกำไรกลับมา หลังจากการลงทุนไปในสองช่วงแรก และเป็นจุดที่ใคร ๆ ก็ต้องการที่จะอยู่ให้นานที่สุด ซึ่งสามารถทำได้โดย
4. ช่วงถดถอย (Decline)
เปรียบเสมือนกับคนสูงอายุ ร่างกายจะมีความแก่ชราลง เช่นเดียวกับสินค้าที่อยู่ในตลาดมานาน ความต้องการ ยอดขาย และกำไรเริ่มลดลง เป็นสัญญาณว่าจะถึงจุดจบของวงจรชีวิจผลิตภัณฑ์แล้ว หนึ่งในสาเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องปกตินั่นคือ การเปลี่ยนแปลงของความต้องการลูกค้า เช่น เทรนด์ชาบูหม่าล่าเริ่มซาลง ลูกค้าอาจจะหันไปสนใจซื้ออาซาอิ หรืออาหารประเภทอื่นที่เริ่มเป็นกระแส โดยทิศทางที่ร้านของคุณสามารถเลือกเดินต่อได้นั่นคือ
ชวนจัดเซตอาหารคู่ “โค้ก” รับสิทธิประโยชน์อีกเพียบ!
พ่อค้าแม่ค้าสามารถเข้าร่วมแคมเปญ “มื้อพิเศษอร่อยซ่ากับโค้ก” โดยนำเมนูสุดเด็ดมาจัดเซตคู่กับเครื่องดื่ม “โค้ก” เพื่อสิทธิประโยชน์ในการทำตลาดฟรี! บอกได้เลยว่าคุ้มค่ากับทั้งร้านค้ามือโปร และร้านค้ามือใหม่
สิทธิพิเศษที่ทางร้านจะได้รับฟรี เมื่อเข้าร่วมแคมเปญ “มื้อพิเศษอร่อยซ่ากับโค้ก”
เป็นอย่างไรกันบ้างกับทฤษฎีวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ หรือ Product Life Cycle ที่ Wongnai for Business ได้นำมาเสนอในวันนี้ บอกได้เลยว่าเพียงพ่อค้าแม่ค้านำเคล็ดลับนี้ไปปรับใช้ และพัฒนาแผนการตลาดให้ดียิ่งขึ้น การจะอยู่ในช่วงอิ่มตัว กอบโกยกำไรในระยะยาวจะไม่เป็นเรื่องยากอีกต่อไป!
สำหรับร้านค้าที่สนใจแคมเปญ “มื้อพิเศษอร่อยซ่ากับโค้ก” สามารถสมัคร และดูรายละเอียด คลิกที่นี่
เพิ่มเมนูลัดคู่ "โค้ก" บนแอปฯ Wongnai Merchant App (WMA) คลิกที่นี่
สร้างโปรโมชันคู่ "โค้ก" เพื่อนเข้าร่วมแคมเปญ "มื้อพิเศษอร่อยซ่ากับโค้ก" บนแอปฯ Wongnai Merchant App (WMA) คลิกเลย