มาดูกันว่านอกจากลงโฆษณาบน LINE MAN แล้ว มีปัจจัยอะไรบ้างที่จะทำให้ชนะใจลูกค้า ยืนยันด้วยข้อมูลและสถิติของ Wongnai for business นำไปปรับใช้กันได้เลย!
นอกจากการลงโฆษณาบน LINE MAN จะเป็นการเพิ่มโอกาสให้ลูกค้ามองเห็นร้านของคุณและเพิ่มโอกาสในการขายได้มากขึ้นแล้ว ปัจจัยที่จะทำให้ลูกค้ากดคลิกเลือกเข้าไปเลือกซื้อสินค้าในร้านของคุณยังมีมากมาย ทั้งรูปภาพปกร้านที่ต้องน่าดึงดูดใจ ภาพเมนูอาหาร ราคาของเมนู หรือแม้กระทั้งการจัดกรุ๊ปเมนูในร้านของคุณให้หาง่าย
วันนี้ Wongnai for business จึงอยากแชร์สถิติและข้อมูลควรรู้ก่อนที่จะลงโฆษณาบน LINE MAN ตามมาดูด้วยกันเลยที่นี่!
ยอดเฉลี่ยต่อออเดอร์ หรือ Average Basket Size (Avg. Basket Size) คือ ค่าเฉลี่ยของลูกค้า 1 คนที่จะสั่งอาหารจากร้านของคุณ โดย Wongnai Merchant App จะมีการแจ้งค่าเฉลี่ยนี้ให้อยู่ในหน้า “รายงาน” และเข้าไปที่ “สรุปยอดขาย” และดูที่กล่อง “ยอดเฉลี่ยต่อออเดอร์ (Avg. Basket Size)” กล่าวอีกอย่างคือ หากยอดขายทั้งหมดของร้านคือ 5,000 บาท มีลูกค้าทั้งหมด 50 คน ราคาเฉลี่ยต่อออเดอร์ของร้านคุณคือ 100 บาท
มูลค่าตรงนี้ สามารถตีความได้ว่าเป็นจำนวนเงินในการซื้อ หรือกำลังซื้อโดยเฉลี่ยของลูกค้าคุณ ดังนั้นการตั้งราคาเมนูอาหารให้ใกล้เคียงและไม่แพงเกินไปจากยอดเฉลี่ยต่อออเดอร์ ก็เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจซื้อของลูกค้าที่เห็นโฆษณา
ซึ่งจากข้อมูลของ Wongnai พบว่าร้านค้าควรตั้งราคา 3 เมนูเด็ดในลำดับแรกให้ใกล้เคียงกับยอดเฉลี่ยต่อออเดอร์ จะสามารถเพิ่มจำนวนออร์เดอร์ได้มากขึ้น ซึ่งการตั้งราคาให้ใกล้เคียง ถือว่าเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างนึง ที่ร้านสามารถนำเสนอสินค้าที่ตรงกลุ่มความต้องการของลูกค้า
จากข้อมูลสถิติของ Wongnai for business พบว่าร้านที่มีรูปประกอบเมนูอาหารที่สวยสะดุดตา จะช่วยในการเพิ่มยอดขายจากเดิมได้มากถึง 20% นอกจากนั้นควรออกแบบรูปปกร้านให้สวยสะดุดตา โดดเด่น น่ารับประทาน เพราะรูปปกร้านเป็นด่านแรกที่ลูกค้าจะเห็นก่อนที่จะเข้ามาในร้านเพราะฉะนั้นหากรูปปกดึงดูดใจลูกได้ ก็ไม่ยากที่ลุกค้าจะกดเข้ามาในร้านและเลือกเมนูที่ถูกใจถ่ายปกร้านยังไงให้สวย วางรูปอย่างไรให้ปัง Wongnai มีคำตอบให้คุณ อ่านต่อได้ที่นี่
สิ่งที่สำคัญในการขายเดลิเวอรี่ คือ การการมีเมนูให้มีหลากหลายจะเป็นการเพิ่มตัวเลือกให้กับลูกค้า และจากข้อมูลของ Wongnai พบว่าในร้านควรมีเมนูให้เลือกอย่างน้อย 5 เมนู ถ้าร้านของคุณมีเมนูที่ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้าในร้านเดียวก็สามารถโอกาสในการขายได้มากขึ้นไปด้วย เช่นในร้านของคุณมีทั้งเมนูน้ำและอาหารในร้านเดียว เป็นต้นอีกทั้งควรจัดกลุ่มประเภทเมนูอาหารในแต่ละประเภทเมนูในร้าน จะทำให้ลูกค้าหาเมนูได้ง่ายขึ้นและสะดวกแก่ลูกค้าในการเลือกซื้อจะช่วยให้โอกาสในการขายของร้านคุณมากขึ้นนั้นเอง
หลังจากที่ลูกค้ากดเข้ามาในร้านจากโฆษณาแล้ว เมนูโปรโมชันจะเป็นพื้นที่ที่ลูกค้าจะเห็นก่อนในหน้าเมนูของร้าน และการลดแลกแจกแถมก็ช่วยดึงดูดลูกค้าได้ดี โดยข้อมูลจาก Wongnai พิสูจน์แล้วว่า การทำโปรโมชันช่วยเพิ่มยอดขายได้จริงถึง 42% เมื่อเทียบกับช่วงไม่ได้ทำโปรโมชัน
โดยสามารถจัดโปรลดราคาพิเศษได้ที่เมนู “โปรโมชัน” บน Wongnai Merchant App และถ้าหากต้องจัดโปรแถมฟรี จัดเซ็ต จับคู่เมนูเด็ด สามารทำได้โดย เริ่มที่เข้าไปเมนู เพิ่มที่เมนูอาหาร > เพิ่มเมนู > เพิ่มประเภทเป็นโปรโมชัน และกดบันทึก
แนะนำการจัดโปรโมชันอาหารมัดใจลูกค้า อ่านต่อได้ที่นี่
1. เลือกเมนู “โฆษณา” ในหน้าแรกของ Wongnai Merchant App
2. เลือกปุ่ม “เริ่มสร้างโฆษณาบน LINE MAN”
3. จากนั้นกำหนดงบโฆษณาต่อวันได้ด้วยตัวเองเพื่อเป็นการคำนวนค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน และสุดท้าย กด “เริ่มโฆษณา”
ท้ายที่สุดก่อนที่จะลงโฆษณาบน LINE MAN ร้านของคุณต้องเข้าร่วมโครงการค่าส่ง 0 บาท (GP Partnership) ก่อนถึงจะลงโฆษณาบน LINE MAN ได้
สรุปแล้ว Ad Manager คือ ตัวช่วยในการโฆษณาร้านที่จะช่วยให้ร้านของคุณถูกพบเห็นมากขึ้นและเร็วขึ้น อีกทั้งยังสามารถเปิด/ปิดเองได้ กำหนดงบโฆษณาเองได้ตามที่ต้องการในแต่ละวัน ขณะที่การจัดการและปรับตัวของร้าน ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ลูกค้าที่พบเห็นร้าน สามารถตัดสินใจซื้อได้ง่ายมากขึ้น
โฆษณา LINE MAN ทำง่ายใน 3 คลิก ดูวิธีทำที่นี่
เริ่มต้นสร้างโฆษณา LINE MAN บนแอปฯ Wongnai Merchant App (WMA) คลิกที่นี่
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ที่นี่ :