เคล็ดลับทำโฆษณาบน LINE MAN ยังไงให้ปัง พร้อมวิธีคุมงบให้ไม่ขาดทุน!

ของมันต้องรู้! ทำโฆษณาบน LINE MAN ยังไงให้ปัง เรียกยอดขายเป็นแมวกวัก พร้อมวิธีคุมงบให้ไม่ขาดทุน กำไรอยู่ครบ!

เป็นกันมั้ย? ทำโฆษณาได้มาแต่ยอดคลิกเข้าชมร้าน แต่ทำไมนะทำไมยอดขายไม่เพิ่มขึ้นเลย วันนี้ Wongnai for Business มีเคล็ดลับมาช่วย เปลี่ยนยอดคลิกเป็นยอดขาย ทำยังไงไปดูกัน!

พ่อค้าแม่ค้าหลาย ๆ ท่านอาจทราบแล้วว่า คุณจะเสียเงินค่าโฆษณาเมื่อเกิดยอดคลิกเข้าชมร้านของคุณเท่านั้น แต่ว่า “ยอดคลิกนับยังไงกันแน่?” ก่อนอื่นอยากให้ชาวพ่อค้าแม่ขายทำความเข้าใจกันก่อนว่า ยอดคลิก คือ จำนวนคนที่กดเข้ามาชมร้านของเราบน LINE MAN จากโฆษณาที่เราลงไว้โดยที่คนที่เข้ามาดู “อาจซื้อหรือไม่ซื้อก็ได้” ตัวอย่างเช่น

- กรณีที่ 1 - นาย A กดเข้ามาดูร้านของคุณจากโฆษณา กดไล่ดูเมนูไปเรื่อยๆ แล้วกดออกไปเพราะยังไม่ถูกใจมากพอ นี่ก็นับเป็นหนึ่งคลิก
- กรณีที่ 2 - นาย B กดเข้ามาดูร้านของคุณจากโฆษณา กดเลือกอาหารเครื่องดื่มเสร็จสรรพ กำลังจะกดสั่ง แต่เห็นยอดราคารวมแพงเกินไปก็เลยเปลี่ยนใจกดออก นี่ก็นับเป็นหนึ่งคลิก
- กรณีที่ 3 - นาย C กดเข้ามาดูร้านของคุณจากโฆษณา กดเลือกอาหาร กดสั่ง และชำระเงินสำเร็จ นี่ก็นับเป็นหนึ่งคลิก

หากนับรวมทั้ง 3 กรณี ทั้งหมดคิดเป็น 3 คลิก แต่ได้เพียงแค่ 1 ออเดอร์เท่านั้น จะเห็นได้ชัดว่ากรณีเช่นนี้ โฆษณาได้ทำหน้าที่ของมันอย่างถูกต้องแล้ว เพราะช่วยดึงดูดให้คนเข้ามาดูร้านของเรา แต่สิ่งสำคัญคือ เมื่อคนเข้ามาดูแล้วทำยังไงที่ร้านของเราจะ “ปิดการขาย” ให้อีกสองคลิกนั้นสั่งอาหารร้านเราด้วย! วันนี้ Wongnai for Business จึงมีเคล็ดลับดี ๆ ดังต่อไปนี้มาฝากกัน

1. เพราะดวงตาคือประตูบานแรก

ดวงตาคือประตูบานแรก หมายถึง ก่อนที่ลูกค้าจะได้กินอาหารร้านของเราจริง ๆ ลูกค้าต้องกินด้วยตาก่อน “ผ่านรูปภาพ”
ดังนั้น “รูปภาพอาหารจึงสำคัญที่สุด” เพราะจะช่วยดึงดูดลูกค้าและจะส่งผลให้ลูกค้าตัดสินใจกดสั่งซื้อได้ง่ายขึ้นอีกด้วยดังนั้น รูปหน้าปกขอร้านต้องสวยเพื่อดึงดูดให้ลูกค้ากดเข้ามา ส่วนรูปภาพหน้าเมนูของร้านก็ต้องดูน่ากิน แสงสวย พื้นหลังไม่รก การจัดใส่จานดูดี ที่สำคัญ “ต้องตรงปก” หมายถึง อาหารที่ลูกค้าจะได้รับต้องเหมือนในรูปภาพด้วยนั่นเอง เพราะถ้ารูปไม่ตรงปกก็อาจไม่เกิดการสั่งซ้ำ

2. ยิ่งหาง่าย ยิ่งได้ใจ

นอกจากรูปภาพที่สวยตรงปกแล้ว การจัดหมวดหมู่ร้านอาหารให้เป็นระเบียบและค้นหาง่ายเป็นเรื่องสำคัญมาก ลูกค้าคงไม่ชอบใจแน่ถ้าต้องไถหน้าจอมือถือขึ้นลงยาวเป็นกิโลเพื่อหาเมนูเพียงไม่กี่รายการเท่านั้น ปัญหาที่พบบ่อยในปัจจุบัน เช่น ไม่มีการจัดหมวดหมู่อาหาร ชื่อเมนูที่สั้นหรือยาวเกินไป อาหารในหมวดหมู่หนึ่งมีเมนูน้อยเกินไป เป็นต้น ทริคง่าย ๆ สำหรับการจัดหมวดหมู่มีดังต่อไปนี้

1. ใส่หมวดหมู่เมนูขายที่ขายดีไว้ด้านบน เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้าและเป็นการเพิ่มยอดขายเมนูที่ขายดีอยู่แล้วให้ขายดีขึ้นไปอีก
2. ใส่หมวดหมู่ของหวานหรือเครื่องดื่มไว้ด้านล่าง เพราะลูกค้าจะคิดถึงอาหารจานหลักก่อน จากนั้นเขาจะคิดถึงของหวานและเครื่องดื่ม เขาก็จะเลื่อนลงไปเจอพอดี ทำให้กดสั่งได้ง่าย
3. แยกประเภทของอาหาร ควรแยกหมวดหมู่อาหารประเภทกับข้าวกับอาหารประเภทราดข้าว อาหารประเภทเส้นหรือน้ำแกงก็ควรอยู่ในหมวดหมู่เดียวกันเพื่อความง่ายในการค้นหา

3. ชื่อนั้นสำคัญไฉน

1. ชื่อเมนู
เมนูอาหารก็ไม่ต่างจากคนเราที่ต้องมีชื่อเรียก แต่เนื่องจากชื่อเมนูของอาหารจะปรากฏบนแอปพลิเคชั่น ดังนั้นจึงไม่ควรยาวหรือสั้นจนเกินไป นอกจากนี้เพื่อดึงดูดลูกค้ามากยิ่งขึ้น ชื่อเมนูก็ไม่ควรเรียบจนเกินไป เช่น หากเมนูของเรา คือ ข้าวผัดปลาทู อาจพลิกแพลงเป็น “ข้าวผัดแมวร้องหิว” ก็ได้

2. คำอธิบายเมนู
คำอธิบายเมนู คือ รายละเอียดเพิ่มเติมที่อาจใส่เพิ่มเพื่อทำให้ชื่อเมนูอาหารน่าสนใจและเข้าใจง่ายมากขึ้น ทำให้ลูกค้าเข้าใจว่าเมนูของเรามีดีอย่างไร อย่างเช่นตัวอย่างข้างบน ชื่อเมนู “ข้าวผัดแมวร้องหิว” อาจเขียนคำอธิบายเมนูเพิ่มเติมข้างล่างว่า “ข้าวผัดจากปลาทูเนื้อแน่น สด ๆ จากชาวประมง ทำสดทุกวัน ฟินแมวร้อง (emoji แมว)”  อ่านต่อได้ที่ https://www.wongnai.com/business-owners/how-to-gain-profit-through-ads?ref=ct

4. วางแผนดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

การวางแผนงบลงโฆษณาก็สำคัญเพราะสุดท้ายการค้าขายก็กลับมาที่คำถามง่าย ๆ ว่า “เราลงทุนไปเท่าไหร่” และ “เราได้ออเดอร์กลับมาเท่าไหร่” Wongnai for Business จึงมีวิธีการวางแผนโฆษณาแบบง่าย ๆ มาแนะนำกัน
- หมั่นตรวจสอบออเดอร์ในการรายงานผลโฆษณาอย่างสม่ำเสมอ
- คิดคำนวณผลจากการลงทุนโฆษณาในแต่ละครั้ง โดยใช้สูตร

ค่าใช้จ่ายในการโฆษณา / จำนวนออเดอร์ที่ได้รับจากโฆษณา = ต้นทุนโฆษณา(บาท) ต่อ 1 ออเดอร์

- เปรียบเทียบต้นทุนโฆษณากับยอดขายเฉลี่ยต่อออเดอร์ (Average Basket Size)
- วางแผนโฆษณาในครั้งถัดไปโดยใช้ข้อมูลมาประกอบการตัดสินใจ

เพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้น ลองดูตัวอย่างสถานการณ์สมมุติต่อไปนี้กันเลย

ร้านป้าไก่ใช้เงินซื้อโฆษณาผ่าน LINE MAN ในเดือนกุมภาพันธ์รวมทั้งสิ้น 1,000 บาท สิ้นเดือนป้าไก่จะหมั่นตรวจสอบรายงานผลโฆษณาของตัวเองในระบบ ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงกดเข้าไปที่ปุ่ม "โฆษณา" ในหน้าหลักของ Wongnai Merchant App (WMA) จากนั้นกดไปที่หน้า "ออเดอร์ทั้งหมด” สามารถเลือกช่วงเวลา เพื่อตรวจสอบจำนวนออเดอร์จากโฆษณา (ขั้นตอนตามรูปด้านล่าง) เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่ามีจำนวนออเดอร์ที่ได้จากการซื้อโฆษณาถึง 100 ออเดอร์

ป้าไก่จึงทำการคิดคำนวณผลจากการลงทุนในโฆษณาของตัวเองโดยใช้สูตร

ซึ่งจะตีความได้ว่าการลงทุนโฆษณาครั้งนี้ของป้าไก่ ใช้งบโฆษณาไป 10 บาทต่อยอดขาย 1 ออเดอร์
อย่างไรก็ตาม แค่ตัวเลขออเดอร์ไม่สามารถบ่งบอกถึงจำนวนยอดขายได้ เพื่อดูต่อว่าโฆษณาครั้งนี้คุ้มหรือไม่ ดังนั้นป้าไก่จึงต้องย้อนกลับไปดูยอดขายเฉลี่ยต่อออเดอร์ ในร้านป้าไก่บนแอป LINE MAN กันต่อ โดยเราสามารถตรวจสอบ ค่าเฉลี่ยได้ง่ายๆเพียง กดปุ่ม "รายงาน" ในหน้าหลักของ Wongnai Merchant App (WMA) จากนั้นตรวจสอบ “ยอดเฉลี่ยต่อออเดอร์” ได้ที่กล่องข้อความ โดยสามารถเลือกช่วงวันที่ต้องการตรวจสอบได้

สมมุติว่าป้าไก่ตรวจสอบแล้วว่าค่าเฉลี่ยในการจ่ายเพื่อซื้อสินค้าของลูกค้าร้านป้าไก่อยู่ที่ 200 บาท ต่อ 1 ออเดอร์ก็สามารถตีความได้คร่าว ๆ ว่า การลงโฆษณาครั้งนี้เป็นผลดี เพราะเราลงทุนไป 10 บาท แต่ได้ออเดอร์กลับมาประมาณ 200 บาท
ในเดือนต่อ ๆ ไปป้าไก่ก็ลองทำโฆษณาไปเรื่อย ๆ โดยป้าไก่จะลองปรับเพดานขึ้นหรือปรับเพดานลงก็ได้ (แต่ต้องไม่กินกำไรจนหมด) เพื่อหาจุดที่จะคุ้มทุนและได้ค่าโฆษณาต่ำที่สุดต่อ 1 ออเดอร์ หากป้าไก่ทำเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ กำไรก็จะยังอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ ไม่ขาดทุน!จบไปแล้วกับเคล็ดลับการทำโฆษณายังไงให้ยอดขายปังแถมกำไรยังอยู่ครบ ร้านค้าสามารถนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ให้เข้ากับรายการอาหารของร้าน รวมถึงความต้องการของลูกค้าได้เลยครับ และที่สำคัญ พ่อค้าแม่ขายทุกท่านอย่าลืมหมั่นตรวจสอบรายงานผลและคำนวณต้นทุนการทำโฆษณาของตัวเองเป็นประจำกันด้วยนะครับ เพื่อที่จะได้รู้ว่าโฆษณาที่ทำไปมีผลลัพธ์ยังไง คุ้มทุนหรือไม่ และเพื่อปรับแนวทางการทำโฆษณาให้มีกำไรอยู่เสมอนั่นเองครับ

3 ขั้นตอนปิดการยิงโฆษณา

สำหรับพี่ ๆ เจ้าของร้านที่ยิงโฆษณาด้วยตัวเอง หรือลองใช้เครดิตโฆษณาฟรีที่ได้จากกิจกรรมต่าง ๆ เมื่อครบกำหนดแล้ว อย่าลืมกดปิดโฆษณากันนะครับ เพราะระบบโฆษณาบน LINE MAN เป็นระบบอัตโนมัติที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับร้าน เพื่อไม่ให้ขาดความต่อเนื่องนั่นเอง วิธีปิดก็ง่ายมากครับ ตามด้านล่างเลย
1. กดปุ่ม “โฆษณา”
2. กดปุ่ม 3 จุด ที่มุมขวาบน
3. กดปิดโฆษณา

โฆษณา LINE MAN ทำง่ายใน 3 คลิก ดูวิธีทำที่นี่

เริ่มต้นสร้างโฆษณา LINE MAN บนแอปฯ Wongnai Merchant App (WMA) คลิกที่นี่

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ที่นี่ :

  • คัมภีร์ลับทำโฆษณาบน LINE MAN ยังไงให้ออร์เดอร์พุ่งทะลุเป้า คลิก
  • เคล็ดลับทำโฆษณาบน LINE MAN ยังไงให้ปัง พร้อมวิธีคุมงบให้ไม่ขาดทุน! คลิก
  • 4 เช็กลิสต์ ทำตามนี้ มียอดปัง! ตกแต่งร้านค้าก่อนเริ่มทำโฆษณา LINE MAN คลิก
  • รวมความสำเร็จจากร้านค้าเสกยอดปัง ดันออร์เดอร์พุ่ง ด้วย โฆษณา LINE MAN คลิก