7 เทคนิคการตลาดร้านเล็ก สำหรับร้านอาหาร งบน้อย ก็ยอดพุ่งได้!

แนะนำ 7 เทคนิคการตลาดร้านเล็ก สำหรับร้านอาหารที่งบจำกัด ทำเองได้ ไม่ยาก! เริ่มต้นด้วยงบ 0 บาท หลายข้อเริ่มทำได้ทันที

ร้านอาหารจะสร้างยอดสร้างกำไร ทำให้ลูกค้าไหลมาเทมาในปัจจุบันได้ คงไม่ใช่แค่เรื่องของรสชาติอาหารที่อร่อยจนใครต้องมาตาม เพราะทุกวันนี้ ในตลาดมีร้านอาหารคู่แข่งอีกมากมาย โดยเฉพาะร้านอาหารร้านเล็กๆ ที่ไม่ใช่ทุกคนรู้จัก แล้วร้านเล็กจะทำการตลาดร้านเล็กอย่างไร ให้ได้ผล ดึงลูกค้าเข้าร้านได้จริง?
ก่อนอื่น เราอยากชวนคุณมาดูข้อจำกัดของธุรกิจร้านอาหารร้านเล็กกันก่อน เพื่อให้เราเข้าใจสถานการณ์ คล้ายๆ กับทำความรู้จักตัวเองก่อนเพื่อเลือกวิธีทำการตลาดที่เหมาะกับร้านข้อจำกัดที่สุด

ข้อจำกัดของการทำตลาดร้านเล็กของร้านอาหาร

1. งบการตลาดไม่สูง วิธีการทำการตลาดจึงต้องไม่ใช้งบสูงหรือไม่ใช้เลย เพื่อคุมต้นทุนของร้านไม่ให้มากเกินไปและเริ่มต้นทำได้เลย
2. ส่วนใหญ่ทำการตลาดด้วยตัวคนเดียว วิธีการทำการตลาดที่ใช้ต้องทำง่าย ไม่เพิ่มภาระงานมาก และสามารถทำด้วยตัวคนเดียวได้
3. ฐานลูกค้าไม่ใหญ่ กลยุทธ์ที่ใช้จึงไม่ใช่การทำการตลาดมวลชน (Mass Marketing) แต่ต้องตรงจุดและเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย มุ่งเน้นการสร้างฐานลูกค้าประจำให้ร้าน

เมื่อรู้ข้อจำกัดเหล่านี้แล้ว เราจะได้เอามาต่อยอดทำแผนการตลาดร้านอาหารที่เหมาะกับร้าน โดยหากยังไม่แน่ใจหรือต้องการไอเดียการตลาดร้านเล็กเพิ่ม ที่ได้ผลดีและแทบไม่ใช้ต้นทุนเลย ถึงไม่มีหน้าร้าน ก็ทำได้

Wongnai for Business รวบรวมมาให้ “7 เทคนิคการตลาดร้านเล็ก” ที่เจ้าของร้านอาหารรายย่อยไม่ควรพลาด ดังนี้!

1. เข้าถึงลูกค้าและขยายโอกาสการขายด้วย “เดลิเวอรี”

ทุกวันนี้ คนส่วนใหญ่ต่างมีแอปพลิเคชัน Food Delivery ติดสมาร์ทโฟนกันแล้ว โดย Food Delivery อย่าง LINE MAN ก็มียอดผู้ใช้งานต่อวันหลักล้านผู้ใช้งาน ช่วยเพิ่มโอกาสให้ร้านอาหารเล็กๆ สามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น แม้ทำเลที่ตั้งร้านจะไม่ดีนักหรือไม่มีหน้าร้านเลยการเปิดร้านอาหารเดลิเวอรีบนแพลตฟอร์มอย่าง LINE MAN นอกจากจะเป็นการขยายโอกาสขายอาหารในอีกช่องทางหนึ่งแล้ว ยังถือเป็นการทำการตลาดที่ช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้จากทุกที่ เพียงโหลดแอปพลิเคชัน WMA: Wongnai Marchant App และเริ่มสร้างโปรไฟล์ร้านได้เลย
การมีร้านบน LINE MAN จะช่วยให้มีคนเห็นและรู้จักร้านมากขึ้น ผ่านการที่ผู้ใช้งาน ค้นหาหมวดอาหาร หรือการแนะนำของแอปฯ
ร้านไหนที่ยังไม่เปิดร้านเดลิเวอรี อยากให้ลองกันดูครับ เผลอๆ นอกจากผลลัพธ์การตลาดที่มีลูกค้ารู้จักมากขึ้นแล้ว บางที LINE MAN หรือช่องทางเดลิเวอรีอาจจะกลายเป็นช่องทางขายหลักของร้านต่อไปก็ได้

2. ทำโปรโมชันเรียกลูกค้าใหม่ ดึงลูกค้าเก่า กระตุ้นยอดขาย

โปรโมชันเป็นอีกสิ่งที่ลูกค้ามองหา ร้านอาหารร้านไหนที่มีโปรโมชันก็มักจะได้รับความสนใจจากลูกค้า นอกจากนี้ การทำโปรโมชันยังเป็นการทำการตลาดร้านเล็กที่ไม่ต้องใช้ต้นทุนอะไรเพิ่มเติม และอาศัยการโปรโมตว่า ร้านอาหารของเรากำลังมีโปรโมชัน โดยโปรโมชันร้านอาหารน่าทำ ช่วยดึงความสนใจลูกค้า กระตุ้นยอดขาย ยกตัวอย่างเช่น

- โปร ซื้อ 1 แถม 1
- ลดราคาเมนูอาหาร
- จำกัดเวลาโปรโมชันหรือ “Happy hour”
- มีตัวอย่างสินค้าให้ลองชิม
- ทำเมนูเซ็ตสุดคุ้ม
- เพิ่มไซส์ราคาพิเศษ
- ทำบัตรสะสมแต้ม

โปรโมชันเหล่านี้ สามารถปรับใช้ได้ทั้งร้านอาหารร้านเล็ก ร้านกาแฟ/คาเฟ่ และโดยเฉพาะร้านอาหารที่เปิดขายบนแพลตฟอร์ม Food Delivery อย่าง LINE MAN เพราะระบบจะช่วยโปรโมตร้านที่ทำโปรโมชันให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น รวมไปถึง ในมุมลูกค้า ก็มักจะมองหาร้านและเมนูที่กำลังจัดโปรโมชันอยู่ เพราะรู้สึกว่าคุ้มกว่า น่าลอง

นอกจากนี้ การทำโปรโมชันยังช่วยให้รักษาฐานลูกค้าเก่าและเพิ่มยอดขายได้อีกด้วย ผ่านโปรโมชันอย่าง “ระบบสมาชิก” หรือ “บัตรสะสมแต้ม” รวมไปถึง สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าเก่า

อ่านเพิ่มเติม: วิธีสร้างเมนูโปรโมชันร้านบน LINE MAN

3. ‘ตีสนิท’ กับลูกค้าผ่านโซเชียลมีเดีย

อยากทำการตลาดร้านเล็ก จะเริ่มจากอะไรดี? เริ่มจากการทำการตลาดบนโซเชียลมีเดีย (social media marketing) ก่อนได้เลย เพราะเป็นวิธีการทำการตลาดที่สอดคล้องกับวิธีรับข่าวสารของผู้คนและยังไม่ต้องใช้งบการตลาดสักบาท ทำง่ายด้วยการเปิดบัญชีบน Instagram หรือสร้างแฟนเพจร้านบน Facebook ให้คนติดตาม

ช่องทางโซเชียลมีเดียเป็นช่องทางที่ร้านสามารถใช้ติดต่อสื่อสารกับลูกค้าได้ ไม่ว่าจะเป็นแนะนำเมนูอาหารที่น่าสนใจ ลงรูปเมนูต่างๆ กระตุ้นให้คนอยากมาร้านหรือสั่งอาหารไปรับประทาน ใช้สำหรับโปรโมตร้านว่ากำลังมีโปรโมชันอะไรที่ลูกค้าไม่ควรพลาด ร้านกำลังมีกิจกรรมอะไร ตลอดจนการบอกข่าวสารทั่วไป เช่น วันนี้ร้านหยุด , พรุ่งนี้กำลังจะมีเมนูพิเศษ , ร้านเพิ่งได้รับวัตถุดิบสดใหม่ที่ควรรีบมาลอง หรือแม้กระทั่งทักทายลูกค้าและเชิญชวนพวกเขามารับประทานหรือสั่งอาหาร ถือเป็นการ ‘ตีสนิท’ เพิ่มปฏิสัมพันธ์ (Engagement) กับลูกค้า

นอกจากนี้ โซเชียลมีเดียยังเป็นช่องทางที่สะดวกสำหรับลูกค้า สามารถติดต่อเข้ามาสอบถามรายละเอียด ถามทาง จองโต๊ะ หรือสั่งอาหารไว้ก่อนได้อีกด้วย

4. การตลาดร้านเล็ก ก็ยิงแอด ทำโฆษณาได้

การทำโฆษณา เป็นอีกกลยุทธ์การตลาดที่ขาดไม่ได้สำหรับยุคดิจิทัลนี้ เพราะการ “ยิงแอด” หรือทำโฆษณาออนไลน์จะช่วยทลายปราการทำเล เข้าถึงลูกค้าได้กว้างขวางมากขึ้น โดยการยิงแอดร้านอาหารก็สามารถทำได้หลากหลายช่องทาง ผ่านช่องทางการทำการตลาดที่หลากหลาย

ยิงแอดผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย เช่น ยิงแอด Facebook ยิงแอด Instagram ยิงแอด LINE ฯลฯ โดยการยิงแอดผ่านช่องทางเหล่านี้ ร้านจะต้องทำโพสต์หรือคอนเทนต์สำหรับโปรโมตร้านก่อน โดยค่ายิงแอดจะแตกต่างกันไปตามแต่ละแพลตฟอร์ม
ยิงแอดผ่าน Food Delivery ของ LINE MAN สามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการซื้ออาหารตั้งแต่แรก ทำให้แอดคุ้มค่า เริ่มต้นเพียงวันละไม่ถึงร้อยบาท สามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากถึงหลักพัน โดยหลักการแสดงโฆษณา คือ แสดงผลโฆษณาบนหน้าค้นหาให้หมวดหมู่/คำค้นที่ลูกค้าสนใจเท่านั้น และคิดเงินเฉพาะเมื่อมีลูกค้าคลิก (CPC) ทำให้เงินไม่ถูกเบิร์นหมดไว คุ้มค่า

ยิงโฆษณา Google Ad ให้เว็บไซต์ ให้คนที่กำลังเสิร์ชหาของกินหรือร้านอาหารบน Google มีโอกาสมองเห็นร้านอาหารของเรา ซึ่งหากร้านไหนไม่มีเว็บไซต์ แนะนำให้สร้างโปรไฟล์ธุรกิจบน Google My Business ที่สามารถใส่ข้อมูลร้านค้า แผนที่ เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ รูปภาพร้าน ฯลฯ มาใช้ยิงแอดได้

ประโยชน์ของการทำโฆษณาที่ร้านไม่ควรพลาด ได้แก่ การยิงแอดหรือทำโฆษณาออนไลน์ช่วยให้ร้านสามารถเข้าถึงลูกค้าปริมาณมากได้ทันที ช่วยขยายฐานลูกค้า ทำให้ร้านเป็นที่รู้จัก และกระตุ้นให้เกิดการสั่งซื้อ โดยการยิงแอดผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย ส่วนใหญ่เหมาะสำหรับการทำให้ร้านเป็นที่รู้จัก (Brand Awareness) มากกว่าการทำให้ลูกค้าสั่งซื้อ แตกต่างจากการยิงแอดผ่าน LINE MAN ที่ลูกค้ากำลังหิวหรือมีความต้องการซื้อ

สรุปข้อดีของการทำโฆษณา ได้แก่
- เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นและทันที ขยายฐานลูกค้า ทำโฆษณาผ่าน LINE MAN เริ่มต้นไม่ถึงร้อยต่อวัน เข้าถึงลูกค้าได้มาก
- ช่วยส่งเสริมให้โปรโมชัน ได้ผลดียิ่งขึ้น (เหมาะทำคู่กัน)
- สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ยิงโฆษณาตรงหาคนที่กำลังมีความสนใจ/ต้องการ กระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

5. การตลาดร้านเล็ก ต้องบอกต่อ
(Word-of-Mouth Marketing)

การตลาดที่น่าจะทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อหรือมากินอาหารที่ร้าน คงหนีไม่พ้น “การตลาดแบบบอกต่อ” หรือ “การตลาดแบบปากต่อปาก” ที่หมายถึง การที่มีคนบอกต่อให้เขาฟังว่า ร้านนี้ดีอย่างไร ทำไมถึงน่าไป แล้วพูดต่อๆ กัน เพราะธรรมชาติของคนเรา มักจะเชื่อถือเพื่อน ครอบครัว หรือบุคคลที่สามมากกว่า คำกล่าวโฆษณาหรือการที่ร้านเป็นคนบอกว่าร้านดีอย่างไร

เทคนิคการตลาดร้านเล็กด้วยการตลาดแบบบอกต่อเป็นวิธีการที่ได้ผลสูงและไม่ต้องใช้งบประมาณใดๆ ในการทำ เพียงแต่ว่า อาจจะทำได้ยากและต้องอาศัยการสร้างแบรนด์ (Branding) มาก่อนในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ ร้านไหนที่อยากให้ลูกค้าบอกต่อ แชร์ร้านต่อ มีทริปเล็กๆ ที่น่าทำ ได้แก่

สร้างความประทับใจ ไม่ว่าจะจากบริการหรือรสชาติของอาหารที่ “อร่อยจนต้องบอกต่อ” ทั้งนี้ ร้านต้องมีมาตรฐานในการให้บริการและมาตรฐานคุณภาพ เพื่อไม่สร้างความผิดหวังให้ลูกค้าใหม่
ร้านหรือเมนูอาหารมอบคุณค่าทางสังคมให้ได้ เช่น กินสิ่งนี้ กินที่ร้านนี้ แล้วคนมองว่า เขามีรสนิยม หรือเป็นคนแบบไหน ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กับลูกค้าได้
สร้างความผูกพันกับลูกค้า (brand loyalty) เมื่อลูกค้าเกิดความผูกพันกับตัวร้าน เจ้าของร้าน หรืออาจจะเป็นพนักงานในร้าน ก็มีแนวโน้มที่ลูกค้าจะพูดถึงร้านบ่อยๆ หรือถ่ายรูปเช็กอินที่ร้าน ว่าได้มาเยือนอีกแล้ว

อ่านเพิ่มเติม: เทคนิคแชร์ลิงก์ร้านบน LINE MAN ให้ลูกค้ากดซื้อได้ทันที

6. ใช้พลัง “รีวิว” ช่วยโปรโมตร้าน ตกลูกค้าใหม่ให้อยากตามมากิน

ต่อยอดจาก “การตลาดแบบบอกต่อ” คือ การใช้พลังรีวิวให้เป็นประโยชน์ เพราะลูกค้ามักจะหารีวิวอ่านเกี่ยวกับร้าน ต้องการรู้ก่อนว่า อาหารอร่อยหรือไม่ บริการเป็นอย่างไร เพื่อให้แน่ใจได้ว่า เมื่อมาสั่งอาหารหรือมากินอาหารที่ร้านจะไม่ผิดหวัง

วิธีการนี้เป็นการทำการตลาดร้านเล็กที่ทำได้ทุกร้านและไม่ใช่งบประมาณการตลาดใดๆ ทำง่ายและให้ผลลัพธ์สูง ทั้งนี้ อาหารและบริการของร้านต้องดีจริง เพราะการเปิดช่องทางให้ลูกค้ารีวิวก็เป็นการเปิดรับทั้งคำชมและข้อตำหนิ โดยช่องทางสำหรับให้เปิดร้านรีวิวโปรโมตร้านก็มีอยู่ 3 ช่องทางที่อยากแนะนำด้วยกัน

3 ช่องทางแนะนำสำหรับเปิดให้ลูกค้ารีวิว

โซเชียลมีเดียทุกช่องทาง เพราะเป็นช่องทางที่ลูกค้าสามารถติดต่อกับร้านอาหารได้ง่าย นอกจากนี้ ยังสามารถ Tag ร้านหรือติดแอชแท็ก (#) เพื่อพูดคุยถึงร้านได้ตรงๆ อีกทั้ง เมื่อมีคนเห็นและชื่นชอบข้อคิดเห็นหรือโพสต์ข้างต้น ก็สามารถแชร์ได้ง่ายๆ อาจช่วยให้ร้านเป็นที่รู้จักได้อย่างรวดเร็ว
ทำ Google My Business โดยการสร้างโปรไฟล์ธุรกิจบน Google ทำให้ร้านอาหารมีโอกาสปรากฏบนหน้าค้นหาของ Google ซึ่งลูกค้าสามารถเข้ามาดูโปรไฟล์ร้าน เวลาเปิด-ปิด เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ ช่องทางเว็บไซต์/โซเชียลมีเดีย แผนที่ รวมถึงรีวิวและรูปภาพบรรยากาศร้านได้
สร้างโปรไฟล์ร้านบน Wongnai แพลตฟอร์มรีวิวอาหารที่คนไทยนิยมใช้งานมากที่สุดและมักจะใช้เพื่อหาร้านอาหารและอ่านรีวิว ร้านอาหารที่มีโปรไฟล์บน Wognai มีโอกาสเข้าถึงผู้ใช้กว่า 1 ล้านคน ทั้งนี้ หากร้านของคุณเปิดร้านอาหารเดลิเวอรีผ่านระบบ Wongnai POS ร้านของคุณจะเชื่อมต่อกับ Wongnai และ LINE MAN รับออร์เดอร์ได้ผ่านหน้าจอระบบได้ทันที  

“Wongnai” แพลตฟอร์มค้นหาและอ่านรีวิวร้านอาหารที่คนไทยใช้มากที่สุด

7. Menu Everywhere
ลูกค้าดูเมนูของร้านได้จากทุกที่

เมนูและรูปภาพอาหารคือปัจจัยสำคัญที่ลูกค้าจะใช้ตัดสินใจว่า อาหารร้านนี้น่าอร่อย น่ามาลองจัง และตัดสินใจสั่งซื้อหรือแวะมากินอาหารที่ร้าน นอกจากนี้ เมนูที่มีรูปภาพอาหารชัดเจนช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เพราะรู้ว่า ที่สั่งไปจะได้อะไร หน้าตาแบบไหน ปริมาณประมาณเท่าไร

กลยุทธ์การตลาดร้านอาหาร “Menu Everywhere” คือ กลยุทธ์การตลาดที่ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงเมนูของร้านได้ตลอดเวลาผ่านระบบอินเทอร์เน็ต เพราะลูกค้าส่วนใหญ่มักจะหาข้อมูลเกี่ยวกับร้านและเมนูอาหารก่อนตัดสินใจมากิน โดยเทคนิคนี้ เราสามารถต่อยอดและใช้ประโยชน์จากเทคนิคข้ออื่นๆ ได้ เช่น มีรูปอาหารพร้อมชื่อเมนูอยู่ใน “อัลบัมเมนู” บน Facebook Page บนบัญชี Instagram ของร้าน บนเว็บไซต์ หรือที่คนไทยมักจะเข้าไปดูก็คือ โปรไฟล์ร้านใน Wongnai ที่มีคอลัมน์รูปเมนูอาหารให้เลือกดู

ทำอาหารอร่อยแล้ว แถมทำน่ากินด้วย อย่าลืมถ่ายรูปอัปเดตลงช่องทางต่างๆ ให้ลูกค้าสามารถดูเมนูและรูปอาหารของร้านได้จากทุกที่ พร้อมใส่ข้อมูลให้ครบถ้วน ชื่อเมนูให้สั่ง และราคา ช่วยให้ลูกค้าที่ลังเลอยู่ ตัดสินใจได้แน่นอน

การตลาดร้านเล็ก ก็ทำสู้ร้านใหญ่ได้! ยิ่งในยุคนี้เป็นยุคดิจิทัล การทำการตลาดออนไลน์ให้ร้านอาหารจึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เราสามารถเริ่มต้นทำได้เลยโดยแทบจะไม่ต้องใช้งบการตลาดใดๆ ทั้งสิ้น หวังว่า 7 เทคนิคการตลาดร้านเล็กที่รวบรวมอยู่ในบทความนี้ จะช่วยให้คุณได้ไอเดียไปโปรโมตร้านเพิ่มเติม ให้ลูกค้าไหลมาเทมา ออร์เดอร์พุ่งทุกวัน!

ร้านไหนที่ใช้กลยุทธ์การตลาดขายทั้งหน้าร้านและเดลิเวอรีด้วย แนะนำตัวช่วยจัดการร้าน Wongnai POS ที่ช่วยให้การทำการตลาดร้านเล็กง่ายขึ้น ด้วยฟีเจอร์ช่วยเชื่อมต่อร้านเข้ากับ LINE MAN และ Wongnai สามารถรับออร์เดอร์เดลิเวอรีได้จากหน้าจอ ไม่ยุ่งยาก รองรับการจ่ายเงินด้วย QR code พร้อมระบบ CRM ช่วยทำระบบสะสมแต้มลูกค้าเก่า ช่วยให้การขายและการทำการตลาดเชื่อมต่อไปด้วยกันได้

สนใจสมัครและศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Wongnai POS คลิกที่นี่ได้เลย!

เริ่มต้นเปิดร้านบน LINE MAN คลิกเลย