เปิดร้านอาหารเดลิเวอรี เลือกเมนูขายอย่างไรดี

แชร์เทคนิคการเลือก และบริหารเมนูร้านอาหาร ดันออร์เดอร์โตแบบทะลุเป้า

การจะเปิดร้านอาหารเดลิเวอรีทั้งที พ่อค้าแม่ค้าต้องคำนึงถึงการจัดการ และการเลือกเมนูที่เหมาะสม หลายครั้งที่เจ้าของร้านอาจรู้สึกสับสนว่าจะเลือกขายเมนูอะไรดี ควรเลือกเมนูไหนเป็นเมนูหลัก หรือจะนำเสนออย่างไรให้ลูกค้าสั่งซ้ำบ่อย ๆ วันนี้ LINE MAN จึงมาแชร์ 4 เทคนิคการเลือก และบริหารเมนูร้านอาหารสำหรับใครที่สนใจอยากเปิดร้านอาหารเดลิเวอรี เพียงทำตามนี้รับประกันความปัง ออร์เดอร์เข้าไม่มีหยุด จะมีเทคนิคอะไรบ้างไปดูกันเลย!

1. เลือกขายเมนูที่ “จัดเตรียมง่าย”

ร้านควรเลือกเมนูที่มีวิธีการเตรียมที่ไม่ยุ่งยาก และใช้เวลาน้อย ซึ่งจะช่วยให้สามารถควบคุมคุณภาพ และรักษามาตรฐานของอาหารก่อนไปถึงลูกค้าได้อย่างคงที่ เช่น เมนูข้าวมันไก่ เพียงแค่หั่นไก่ให้พอดี จัดเสิร์ฟพร้อมข้าวมัน น้ำซุป  และน้ำจิ้ม

นอกจากนี้ ควรเลือกเมนูที่สามารถใช้วัตถุดิบร่วมกันกับเมนูอื่น ๆ ในร้านได้ เช่น หมูสับ ที่สามารถนำมาทำเมนูได้หลากหลาย ทั้งลาบหมู ผัดกะเพรา หรือแกงจืด ช่วยให้สามารถเตรียมอาหารให้กับลูกค้าได้รวดเร็ว สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า และเพิ่มโอกาสในการกลับมาสั่งซื้อซ้ำ

2. เน้นเมนูที่ “มีกำไรต่อจานสูง”

เมนูอาหารในร้านควรมีความหลากหลาย โดยมีเมนูในระดับราคากลาง และสูง เพื่อให้ลูกค้ามีตัวเลือกมากขึ้น เจ้าของร้านควรพิจารณาเลือกเมนูจากกลุ่มที่มียอดขาย และกำไรสูง กับกลุ่มที่มียอดขายต่ำ แต่กำไรสูง สิ่งสำคัญ คือ การคำนึงถึงกำไรที่ได้ต่อจาน ไม่ใช่แค่ราคาขาย

ยกตัวอย่างเช่น
เมนูที่ขายราคา 250 บาท มีกำไร 80 บาท VS เมนูที่ขายราคา 199 บาท และมีกำไร 99 บาท
ร้านควรเน้นขายเมนูราคา 199 บาท เพราะมีกำไรสูงกว่าถึง 19 บาท ดังนั้น

การเลือกเมนูควรพิจารณากำไรต่อจานเป็นหลัก เพราะเมนูที่สร้างกำไรได้มาก จะช่วยให้ร้านเติบโตได้ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง

3. เน้นเมนูที่ “โดดเด่น”

หากคุณต้องการให้ลูกค้าเลือกสั่งเมนูใดเมนูหนึ่ง เช่น เมนูที่ได้กำไรต่อจานสูง หรือเมนูตามฤดูกาล ควรทำให้เมนูนั้นดูโดดเด่น และน่าสนใจ เทคนิคที่สามารถใช้ได้มีหลายรูปแบบ เช่น การทำให้สีสันของเมนูนั้นแตกต่างจากเมนูอื่น หรือการวางเมนูที่หมวดเมนูแนะนำ จะช่วยให้ลูกค้าสามารถมองเห็น และรู้จักเมนูที่ต้องการโปรโมตได้ดีขึ้น

นอกจากนี้ ยังสามารถทำโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายควบคู่ เช่น โปรฯ เซตเมนูสุดคุ้ม หรือ โปรฯ เพิ่มไซซ์ราคาพิเศษ เพื่อดึงดูดลูกค้าให้สนใจเมนูนั้น ๆ มากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย และสร้างยอดขายให้กับร้านของคุณในระยะยาว

4. เมนูที่ “ไม่ใช้เวลาทำนานเกินไป”

การเตรียมทำอาหารให้พร้อมจัดส่งภายใน 30 นาที ถือเป็นระยะเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากลูกค้ามักคาดหวังว่าจะได้รับอาหารที่ยังคงความร้อน และสดใหม่ โดยไม่ต้องทำการอุ่นซ้ำ จะช่วยสร้างความพึงพอใจอย่างมาก นอกจากนี้ การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ซึ่งสามารถรักษาอุณหภูมิของอาหาร และป้องกันการหกเลอะเทอะระหว่างการขนส่ง จะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับร้าน และเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า ว่าอาหารที่ได้รับอยู่ในสภาพสมบูรณ์

หวังว่าพ่อค้าแม่ค้าที่อ่านจบแล้วจะนำ 4 เทคนิคดี ๆ เหล่านี้ ไปปรับใช้กับร้านอาหารของตัวเอง รับรองว่ายอดปัง กำไรแน่น ออร์เดอร์พุ่งแน่นอน

บทความแนะนำเพิ่มเติม