ร้านช่างคั่ว แชร์ เทคนิคเปิดร้านกาแฟให้ปัง ผ่านเอกลักษณ์ร้านที่แตกต่าง พร้อมการบริหารร้านที่เหนือชั้นโดย Wongnai POS
นาทีนี้ ทั้งคาเฟ่และร้านกาแฟผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดมากมายเต็มกรุงเทพไปหมด แต่จะมีสักกี่ร้านที่สร้างเอกลักษณ์ให้กับตัวเอง และยังคงส่องประกายท่ามกลางพิษเศรษฐกิจในยุคโควิด-19 ได้
วันนี้เรามาร่วมพูดคุยกับคุณปุ๋ย จิรนันท์ สำราญพันธ์ หนึ่งในเจ้าของร้านช่างคั่ว Espresso Bar ร้านกาแฟลับในซอยเล็กที่ถ่ายทอดเรื่องราวของธุรกิจกาแฟเล็ก ๆ แต่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร พร้อมทั้งเทคนิคดี ๆ ในการบริหารร้านมาฝากเจ้าของร้าน หรือผู้ประกอบการที่สนใจเปิดร้านกาแฟทุกท่าน ซึ่งทางร้านช่างคั่ว Espresso Bar ได้ใช้ Wongnai POS เป็นตัวช่วยหลักในการบริหารดูแลร้าน
คุณปุ๋ย จิรนันท์ สำราญพันธ์ ได้เล่าให้ฟังว่า จุดเริ่มต้นของร้านช่างคั่ว Espresso Bar มาจากการที่พี่ชายของคุณปุ๋ย ชื่นชอบการทานกาแฟ และมีความสนใจในการทำกาแฟมาก รวมถึงพี่ชายเปิดกิจการร้านกาแฟมากว่า 8 ปีแล้ว เลยได้ร่วมกันต่อยอดสร้างอีกกิจการมาเป็น ร้านช่างคั่ว Espresso Bar ต่อ
ร้านช่างคั่ว Espresso Bar มีความพิเศษที่ร้านอื่น ๆ ไม่มี นั่นก็คือ “เมล็ดขุนตื่นน้อย” ซึ่งเป็นเมล็ดกาแฟสายพันธุ์ไทยแบบ Single-origin และไม่ผ่านการเบลนด์เมล็ดกาแฟใด ๆ ซึ่งคุณปุ๋ยและพี่ชายร่วมกันหาแหล่งปลูก ทำการปลูก คั่ว และผ่านทุกกระบวนการต่าง ๆ ด้วยตนเอง ทำให้มั่นใจถึงคุณภาพและรสชาติของกาแฟทุกแก้วในร้านได้ แม้จะมีร้านกาแฟผุดเยอะขึ้นเป็นดอกเห็ด ก็ยังคงมั่นใจ ด้วยเอกลักษณ์ของเมล็ดกาแฟที่ร้านใช้ ซึ่งทำให้ลูกค้ารู้สึกได้ถึงประสบการณ์กาแฟที่แตกต่าง และกลับมาทานอีกแน่นอน
“เคล็ดลับของทางร้าน ที่ไม่เหมือนร้านอื่น ก็จะเป็นเมล็ดไทยขุนตื่นน้อยของเราที่แหละค่ะ และมาตรฐานในการชงกาแฟของเราคือรสชาติต้องเหมือนกันทุกแก้ว ห้ามตกหล่นเรื่องความสะอาดในการทำและใส่ใจในทุกขั้นตอน และการบริการลูกค้า ต้องยิ้มแย้มแจ่มใส ทักทายลูกค้า ไม่ได้เหมือนกับว่าลูกค้ามาซื้อกาแฟ แต่ทำให้ลูกค้าสบาย ๆ เป็นกันเองเหมือนชงกินเองที่บ้าน”
“เมนูที่ขายดีที่สุดของทางร้านจะเป็น อเมริกาโน่ เมล็ดไทยขุนตื่นน้อย และขนมจำพวกครองซองต์เอาไว้ทานคู่กับกาแฟ ซึ่งมีหลายรสชาติวนเวียนไปแต่ละสัปดาห์ และร้านเรายังมีมีกาแฟเมล็ดนอก หรือเมล็ดกาแฟ World ที่สลับเปลี่ยนเวียนแต่ละสัปดาห์เช่นกัน ก็จะมีมีเม็กซิโก เอธิโอเปีย ประมาณนี้ค่ะ”
เมื่อถามถึงประสบการณ์ช่วงเปิดร้านช่างคั่วแรก ๆ กับคุณปุ๋ย คุณปุ๋ยก็เลยย้อนเท้าความไปว่า เคยใช้ระบบจัดการร้าน (POS) ตั้งแต่ช่วงเปิดร้านแรก ๆ แล้ว แต่ยังเจอปัญหาที่มาจากการใช้งานอยู่ โดยเฉพาะเรื่องการสรุปยอด ที่ระบบจัดการร้านเก่าไม่ชี้แจงรายละเอียด ทำให้คุณปุ๋ยไม่สามารถทราบที่มาที่ไปของยอดขายได้ ว่าเงินสดเท่าไหร่ เงินโอนเท่าไหร่ แถมไม่มีข้อมูลที่นำไปวิเคราะห์ต่อยอดการบริการให้ด้วย
“Wongnai POS ทำให้โอเคขึ้นเยอะ แจกแจกรายละเอียดทุกอย่าง วันนี้เราขายอะไรดีที่สุด สัปดาห์นี้ เดือนนี้เราขายอะไรดีที่สุด แย่ที่สุด ทำให้เราฉุกคิดได้ว่าทำไมเราขายเมนูนี้แย่สุด แล้วเราเอาข้อเสียตรงนั้นมาปรับปรุงและพัฒนาร้านต่อไปได้ อันนี้ชอบที่สุดเลย”
นอกจากนี้คุณปุ๋ยได้เสริมเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์ที่ชอบที่สุดใน Wongnai POS นั่นก็คือฟีเจอร์ Report ด้วย
“ฟีเจอร์ที่ชอบที่สุดคือเรื่องการ Report ซึ่งสรุปยอด ปิดยอด เงินสด เงินโอน ทุกอย่างทำได้ง่ายมาก เพราะเราเองไม่ได้ดูแลร้านคนเดียว มีพี่ที่ร่วมดูแลกับเราด้วยด้วย ซึ่งระบบช่วยคิดต้นทุน กำไร แยกรายละเอียดได้ดี สะดวกทั้งหน้าร้านและหลังร้าน”
ก่อนจะจบบทสัมภาษณ์ ทาง Wongnai for Business ได้ถามเคล็ดลับการเปิดร้านกาแฟให้ปังสไตล์ช่างคั่ว Espresso Bar โดยคุณปุ๋ยได้เปิดเผย 3 หัวใจหลักในการบริหารร้านกาแฟ ซึ่งก็คือ การพยายามควบคุมแลรักษาคุณภาพกาแฟ ไปพร้อม ๆ กับใช้ Wongnai POS เพื่อจัดการดูแลร้าน
“เราคาดหวังและตั้งใจในการบริการมาก โดยเราวัดมาตรฐานทั้งน้ำ ทั้งกาแฟ และเครื่องบดให้ออกมาดีทุกแก้ว ซึ่งน้อยมากที่เราจะทำกาแฟผิดพลาด และอีกหนึ่งสิ่งคือการบริการที่ดี ใส่ใจในการบริการลูกค้าเป็นอันดับแรก”
“เป็นกำลังใจให้กับทุกร้านที่ประสบปัญหาโควิด และให้เปิดใจลองใช้ Wongnai POS นะคะ ร้านช่างคั่ว Espresso Bar ค่ะตั้งอยู่ที่สุทธิสาร ซอยอุดมสุข แยก 4 ค่ะ ถ้าใครไม่สะดวกขับรถยนต์มา สามารถมาทางรถไฟฟ้าใต้ดินได้ ทางออกประตู 3 ค่ะ หรือสั่งผ่านเดลิเวอรี LINE MAN ได้เลยค่ะ”
สนใจสมัครและศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Wongnai POS คลิกที่นี่ได้เลย!