เผย 7 สาเหตุที่ทำให้ร้านอาหารเจ๊งขาดทุนยับเยิน

วงการร้านอาหารในประเทศไทยวันนี้ในหมุนเร็วยิ่งกว่าโลกของเราโคจรรอบดวงอาทิตย์เสียอีก คนที่กำลังอยู่ในช่วงของการเริ่มต้นเปิดร้านคงจะเต็มไปด้วยความตื่นเต้นในการวางแผนและวาดฝันอันยิ่งใหญ่ ในขณะเดียวกันคนที่เปิดร้านลงสนามจริงมาสักพักใหญ่คงรู้แล้วว่าการเปิดร้านอาหารให้สำเร็จไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ด้วยจำนวนคู่แข่งที่มีอยู่ล้นตลาดในตั้งแต่แต่แรกและจำนวนคู่แข่งที่กำลังจะผุดใหม่ขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกวัน มีหลายร้านอาหารที่ต้องเจ๊งพัง ขาดทุนไม่เป็นท่าตั้งแต่ปีแรก แต่ก็มีอีกหลายร้านที่ประสบความสำเร็จภายในระยะเวลาไม่นานเช่นกัน

เพื่อป้องกันไม่ให้ร้านอาหารของเรา ‘เจ๊ง’ หรือขาดทุนย่อยยับ วันนี้ Wongnai for Business จะมาเผย 7 สาเหตุที่มักทำให้ร้านอาหารขาดทุนจนต้องปิดกิจการ เราแนะนำให้พี่ ๆ เจ้าของร้านอาหารทุกคนอ่านให้จบ เพราะข้อสุดท้ายเป็นเหตุผลที่ทุกคนอาจมองข้ามไป!

สาเหตุที่ 1: ทำเลผิดพลาด

‘ร้านอาหารขายไม่ดี ผิดที่ทำเล’ เกิดขึ้นจริงและเป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ของหลาย ๆ ร้านอาหาร ณ ปัจจุบัน ในบางครั้งร้านอาหารที่รสชาติอร่อย คุณภาพสูง มีกิมมิคแปลกตาน่าดึงดูด กลับเจ๊งในที่สุดเพราะไม่มีคนแวะเข้าร้านเพราะตั้งอยู่ในหลืบลึก ไม่มีที่จอดรถรองรับจำนวนลูกค้า แต่ในขณะเดียวกันร้านอาหารที่มากับคอนเซปต์เรียบง่าย แต่ตั้งอยู่ในโลเคชั่นที่มีคนเดินผ่านตลอดเวลา เข้าถึงง่าย สังเกตุเห็นง่าย กลับกลายเป็นร้านอาหารยอดฮิตเสียแบบนั้น ดังนั้นก่อนจะเปิดร้านอาหาร โลเคชั่นทำเล ควรเป็นหัวข้อที่ควรทำการบ้านก่อนตัดสินใจเปิดร้านเป็นอย่างยิ่ง

สาเหตุที่ 2: บริหารรายรับ-รายจ่ายไม่เป็น

การบริหารบัญชีร้านอาหารไม่ได้เกี่ยวกับการดูแลเงินเข้า แต่การใช้จ่ายเงินอย่างชาญฉลาดเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้เงินในร้านอาหารหมุนเวียนดี ไปต่อได้เรื่อย ๆ มีเจ้าของร้านอาหารหลายเจ้าที่มักโฟกัสในการปรุงอาหารที่รสชาติอร่อย คุณภาพสูง จนเกินต้นทุน ลืมบันทึกและควบคุมค่าใช้จ่ายของร้าน หรือในบางครั้งเจ้าของร้านนำบัญชีส่วนตัวมาปนกับบัญชีร้านอาหาร ใช้จ่ายจนจนหนี้ท่วมกิจการไปหมด ดังนั้นการทำบัญชีและบริหารรายรับ-รายจ่าย ของร้านอาหารอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เจ้าของร้านเห็นภาพรวมการเงิน ณ ปัจจุบัน และปรับสถานการณ์ได้ทันท่วงที

สาเหตุที่ 3: รสชาติอาหารไม่คงที่ ไม่ถูกปากลูกค้า

การปรุงอาหารเพื่อขายนั้นต่างจากการปรุงอาหารเพื่อมารับประทานกันเองที่บ้าน ทุกจานนั้นเปรียบเสมือนสินค้าที่ธุรกิจเรามอบให้ลูกค้า ซึ่งคุณภาพและความสม่ำเสมอของคุณภาพนั้นเป็นสิ่งที่ควรคาดหวังได้ในทุกจานของร้านเรา หลายๆ ร้านอาหารที่ลูกค้าสั่งเพียงครั้งสองครั้ง ไม่แวะมาอีก มีแต่ขาจรไม่มีขาประจำเป็นเพราะรสชาติในแต่ละครั้งแต่ละจานไม่มีสูตรและคุณภาพตายตัว ทำให้ลูกค้าไม่รู้สึกติดใจหรือจำเป็นต้องกลับมาอีก

สาเหตุที่ 4: การให้บริการระดับไม่ประทับใจ

ทุกวันนี้ ผู้บริโภคไม่เพียงแต่คาดหวังอาหารจากร้านอาหาร แต่การบริการและประสบการณ์กลายเป็นหัวใจในการตัดสินใจเลือกรับประทานร้านอาหารสักร้านเช่นกัน ดังนั้นการบริการที่ดีและจริงใจจะเป็นจุดที่ทำให้ลูกค้าประทับใจและอยากแวะกลับมาบ่อย ๆ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าร้านอาหารจะทำผิดพลาดไม่ได้ แต่หมายความว่า ในฐานะผู้บริการ การรับฟังข้อติชมเมื่อมีข้อผิดพลาด ขออภัยอย่างนอบน้อม และแก้ไขปัญหาทันที จะทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความจริงใจและกลับมาอีกบ่อย ๆ ในทางกลับกัน ถึงแม้รสชาติอาหารอร่อยแต่ให้บริการไม่ดี ก็จะมีแต่ขาจร ไร้ขาประจำ ซึ่งจุดน่ากลัวของหัวข้อนี้คือการบอกปากต่อปากจากขาจรสู่ผู้บริโภคคนอื่น ๆ จนลูกค้าน้อยลงและต้องปิดร้านในที่สุด

สาเหตุที่ 5: เจ้าของร้านไม่ได้ลงสนามเอง พนักงานละเลยหน้าที่

การจ้างผู้จัดการร้าน ไม่ได้หมายความว่าร้านอาหารจะดำเนินกิจการได้ราบรื่นในแต่ละวัน หากเจ้าของร้านไม่เคยแวะมาดูร้านเลย เมื่อถึงเวลาต้องตัดสินใจเรื่องใหญ่ แต่กลับไม่เคยเห็นภาพรวมและเบื้องหลังร้านด้วยตาตัวเองเลยจนทำให้มองข้ามปัญหาเล็กน้อยไปและกลายเป็นเรื่องเรื้อรังที่สายเกินกว่าจะแก้ในที่สุด ในขณะเดียวกันการจ้างพนักงานร้านอาหารแบบไม่มีกฏระเบียบ ข้อปฏิบัติในการทำงานที่เป็นตายตัว ยิ่งทำให้ร้านอาหารขาดมาตรฐานและนำไปสู่จุดจบได้

สาเหตุที่ 6: ไม่สนใจทำการตลาด

ปรุงอาหารสูตรต้นตำรับจากต้นสายตระกูลมาขาย หรือเมนูใหม่ที่ลงทุนลงแรงคิดมาเองได้อร่อยแค่ไหน แต่ไม่มีใครรู้ถึงตัวตนของร้านหรือรู้จักเมนูเหล่านั้น ถือเป็นสิ่งที่มักเกิดขึ้นจริงเมื่อร้านอาหารมองข้ามเรื่องการตลาด ท่ามกลางคู่แข่งมากมายที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด การตลาดนี่แหละถือเป็นหัวใจของธุรกิจที่ทำให้ลูกค้ารู้จักร้านเรา เกิดความสนใจและตัดสินใจแวะเข้ารับบริการ ซึ่งในยุคปัจจุบันที่โลกออนไลน์และสื่อสังคมกลายเป็นช่องทางกระจายข่าวสารได้มากกว่าการบอกปากต่อปาก การวางแผนกลยุทธ์การตลาดที่ดีและมั่นคงกลายเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดเพื่อให้ร้านของเราไม่เจ๊งและอยู่ได้นาน ๆ

สาเหตุที่ 7: ไม่หยิบยืมเทคโนโลยีมาช่วย

เมื่อเป็นเรื่องของการดำเนินงานจริงในธุรกิจร้านอาหารแต่ละวัน นอกจาก 6 ข้อที่กล่าวมาซึ่งเป็นภาพใหญ่ ๆ แล้ว งานอย่างการรับออร์เดอร์ การเก็บเงินลูกค้า จัดการสต๊อกวัตถุดิบ ความปลอดภัยในการรักษาข้อมูล และการเข้าถึงลูกค้าในช่องทางออนไลน์ เป็นเรื่องรายละเอียดปลีกย่อยที่มักใช้เวลาเยอะ จนเจ้าของร้านอาหารมองข้ามไปหลายครั้งเพราะดูแลทั้งหมดไม่ไหว

ระบบจัดการร้านอาหาร หรือ POS ร้านอาหาร เป็นเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การบริหารงานในร้านอาหารให้ครบจบ เสมือนมีมือขวาคนเก่งที่รู้และอัปเดตรอบด้านเกี่ยวกับทุกอย่างในร้านเราและช่วยให้เจ้าของร้านบริหารร้านได้อย่างมีคุณภาพขึ้น จนนำไปสู่การบริการและประสบการณ์ลูกค้าที่ดีขึ้นและประสบความสำเร็จได้ พร้อมอุดรอยรั่วต่าง ๆ ในงานร้านอาหารได้อย่างทันท่วงทีในหลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็น

• การจัดการออร์เดอร์ทั้งหน้าร้านและช่องทางเดลิเวอรี
• พิมพ์ใบเสร็จรายละเอียดแม่นยำ ลดข้อผิดพลาดจากในครัวสู่มือลูกค้า
• เปลี่ยนขาจรเป็นขาประจำด้วยระบบสมาชิก (CRM)
• รายงานยอดขายแบบละเอียด อัปเดตแบบเรียลไทม์
• ระบบจัดการวัตถุดิบ ช่วยวางแผนลดต้นทุนค่าใช้จ่ายได้ 

‍
‘ร้านอาหารเจ๊ง’ มาจากหลากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำเล การทำบัญชี รสชาติอาหาร การให้บริการ การตลาด หรือการละเลยตัวช่วยในรายละเอียดปลีกย่อยจนบริหารงานไม่ทันต่าง ๆ บางร้านที่เจ๊งไปเพราะ 1 จากทั้ง 7 หัวข้อก็มี หรือร้านที่เจ๊งเพราะเจอปัญหา 7 ข้อทั้งหมดเลยก็มี สำหรับเจ้าของร้านอาหารหรือใครที่กำลังจะเปิดร้านอาหารควรหมั่นทำการบ้านและศึกษาเนื้องานให้ดีและหาทางหลีกเลี่ยงปัญหาทั้ง 7 ให้ได้ และหนทางประสบความสำเร็จที่วาดไว้จะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน สามารถลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Wongnai POS ได้ที่นี่เลย!