เทคนิคโปรโมตร้าน 5 ช่องทาง โปรโมตยังไงให้ร้านแน่น! ออร์เดอร์พรึ่บ!

อยากโปรโมตร้านทำยังไง? แนะนำเทคนิคโปรโมตร้านออนไลน์ แต่ละช่องทางควรทำยังไง แนะนำทั้งช่องทาง FB, IG, Google, Wongnai และ Food Delivery

ทุกวันนี้ การทำการตลาดร้านค้ามีช่องทางให้ใช้มากมาย และหลายช่องทาง เราสามารถทำได้ โดยไม่จำเป็นต้องเสียตังค์เลย แถมยังเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ซึ่งช่องทางที่ว่า ก็คือ “ช่องทางออนไลน์”

อย่างไรก็ตาม แต่ละช่องทางมีจุดเด่น จุดด้อยต่างกันไป การจะใช้ช่องทางเหล่านี้โปรโมตร้านอาหารของเราให้เข้าถึงลูกค้า ให้คนเข้ามากินที่ร้านหรืออยากสั่งอาหารกับเรา ต้องมีทริคเล็กน้อย

5 ช่องทางที่เอามาแนะนำจะมีอะไรบ้าง จะต้องใช้ทริคอะไรในการทำ ไปดูกันเลย

1. Facebook (ทั้งเพจและกลุ่ม)

Facebook เป็นโซเชียลมีเดียช่องทางหลักที่คนไทยใช้ ทั้งใช้บ่นเรื่องราวประจำวัน ติดตามเพจที่สนใจ หรือเข้าร่วมกลุ่มต่าง ๆ (Facebook Group) ตามความสนใจเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยน นอกจากนี้ ยังใช้เพื่อสืบค้นข้อมูลของร้านต่าง ๆ ดูรูป ดูข้อมูลข่าวสารจากร้าน และใช้ดูรีวิว ความคิดเห็นของลูกค้าเก่า ๆ

สำหรับร้านอาหารทั้งที่มีหน้าร้านและที่ขายอาหารเดลิเวอรี เราสามารถใช้ Facebook โปรโมตร้านได้ ทั้งผ่าน Facebook Page และ Facebook Group เลย โดยแนะนำให้ทำตามนี้

  • ใส่ข้อมูลบนเพจให้ครบ มีเมนูให้เห็น Facebook Page ก็คืออีกหนึ่ง ‘หน้าร้าน’ บนโลกออนไลน์ ร้านจึงควรใส่ข้อมูลบนเพจให้ครบถ้วย ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่ แผนที่ เบอร์ติดต่อร้าน ที่สำคัญในเพจควรมีรูปร้านและ/หรืออาหารเมนูต่าง ๆ ของร้านที่น่ากินด้วย เพื่อเป็นข้อมูลให้ลูกค้าตัดสินใจ
  • อัปรูปอาหารบ่อย ๆ ร้านควรจะมีโพสต์อัปเดตทุกวัน เพื่อให้ลูกค้ารู้ว่า ร้านยังเปิดอยู่นะ ช่องทางนี้ยังใช้งานและอัปเดตข่าวสารอยู่อย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญ แนะนำให้อัปรูปอาหารบ่อย ๆ สับเปลี่ยนเมนูกันไปทีละเมนูสองเมนู นำเสนอเมนูให้ลูกค้ารู้จัก
  • ทำคอนเทนต์พูดคุยกับคนบ้าง นอกจากลงรูปอาหารแล้ว หากช่วงไหนมีประเด็นที่คนให้ความสนใจ น่าชวนพูดคุย ร้านอาจทำโพสต์ง่าย ๆ ขึ้นมาพูดคุยกับคนที่ติดตามหรือเข้ามา ถึงแม้ว่าอาจจะไม่มีใครตอบ แต่สิ่งเหล่านี้ทำให้คนเข้าใจคาแรกเตอร์ของร้านได้ ทำให้ร้านดูน่าเข้าถึงหรือสอบถามได้ 
  • เข้าร่วม Facebook Group ที่เกี่ยวข้อง สมมติ ร้านของเราคือ คาเฟ่ ก็แนะนำให้เข้าร่วมกลุ่มคนรักคาเฟ่ กลุ่มเที่ยวคาเฟ่ เวลามีคนสอบถามในกลุ่ม เราก็สามารถไปตอบ ไปชวนคนในกลุ่มมาเที่ยวร้านเราได้ ซึ่งเทคนิคนี้ สามารถทำได้กับร้านอาหารทุกประเภท เพียงแต่ต้องสืบหน่อยว่า กลุ่มไหนที่คนน่าจะสนใจเมนูหรือร้านอย่างเรา
ตัวอย่างโพสต์รูปเมนูง่าย ๆ จากร้าน VACATION BANGKOK
ตัวอย่าง Facebook Group เกี่ยวกับอาหาร

2. Instagram

Instagram เป็นโซเชียลมีเดียที่เอาไว้ใช้ลงรูปและก็ดูรูปภาพ ช่องทางนี้เหมาะเลยสำหรับร้านอาหารและคาเฟ่ที่ตกแต่งร้านสวย ๆ ชวนให้คนมาถ่ายรูป-เช็กอิน ทั้งนี้ ไม่ใช่ว่าร้านขายอาหารออนไลน์ ขายเดลิเวอรีจะใช้ IG โปรโมตร้านไม่ได้ เพียงทำอาหารให้หน้าตาน่ากิน เสริมเทคนิดถ่ายรูปอาหารอีกหน่อย ก็ลงรูปอาหารรัว ๆ ยั่ว ๆ ให้คนอยากกดสั่งเลย 

  • ลงรูปอาหารน่ากิน ๆ  ลงรูปอาหารน่ากินและเมนูต่าง ๆ ของร้านบ่อย ๆ เขียนแคปชันเล็กน้อย บอกเขาว่า เมนูนี้พิเศษหรือน่ากินอย่างไร
  • ลงรูปสถานที่ ใครมีหน้าร้าน อย่าลืมลงรูปหน้าร้านกันด้วยนะครับ ถ้าร้านมีมุมสวย ๆ ให้ถ่ายรูปด้วยแล้วยิ่งดี เชิญชวนสาย IG มาบุกร้านได้แน่นอน
  • ทำ Reels ที่ชวนหิว ทุกวันนี้ Reel หรือวิดีโอสั้นใน Instagram มาแรงมาก ๆ ใครมีสกิลหน่อย แนะนำเลย! ทำคลิปสั้นแนะนำเมนูของร้าน จะเป็นขั้นตอนการทำ การตกแต่งอาหาร ก็ดูเพลิน แถมชวนหิว
  • อย่าลืมแปะลิงก์สั่งที่ Bio อย่าลืมช่องทางติดต่อร้าน เบอร์โทร หรือใครขายเดลิเวอรี เช่น LINE MAN ก็แปะลิงก์ให้คนกดสั่งง่าย ๆ ไปเลยที่หน้าโปรไฟล์ IG หรือ Bio
ตัวอย่างโพสต์ Reel จากร้าน roastbkk

3. Google My Business

เคยไหม ลองเสิร์ชหาร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านนวด หรือร้านตัดผมบน Google แล้วจะมีผลการค้นหาที่เป็นการ์ดแนะนำธุรกิจหรือร้านต่าง ๆ ให้เรา ตามโลเคชันที่เราอยู่ หรือหากเสิร์ชชื่อร้านเลย เราก็จะเจอกับการ์ดข้อมูลของร้าน ไม่เบอร์โทรติดต่อ เว็บไซต์ แผนที่ รูป ฯลฯ ขึ้นมา สะดวกสำหรับลูกค้าสุด ๆ

แล้วถ้าร้านเราอยากทำแบบนี้บ้าง ต้องทำยังไง? 

ก่อนอื่นเลย เราต้องมีบัญชี Gmail ก่อน สามารถสมัครผ่าน Google เลย จากนั้นให้ไปสร้าง Business Profile บน Google จากนั้นก็กรอกข้อมูลต่าง ๆ ให้ครบ โดนสิ่งที่ต้องมีคร่าว ๆ ได้แก่ 

  • รูปภาพร้าน รูปอาหาร รูปบรรยากาศร้าน
  • ตำแหน่งร้านค้า (เอาไว้ปักหมุด ให้ลูกค้าเห็นเราใน Google Map)
  • เวลาเปิด-ปิดทำการ
  • เบอร์โทรศัพท์และลิงก์เว็บไซต์ (หรือลิงก์ช่องทางติดต่ออื่น)

นอกจากการลงข้อมูลต่าง ๆ ให้ครบแล้ว ทริคเพิ่มเติมในการทำ Google My Business คือ ให้อัปเดตข่าวสารหรือลงรูปเรื่อย ๆ เพราะ Google My Business ก็สร้างโพสต์ได้เหมือนกับ Facebook และสามารถลงรูปได้เหมือนกัน ร้านสามารถลงรูปเมนูใหม่ ๆ หรือเมนูแนะนำ ชวนลูกค้ามาลองได้ 

ที่สำคัญ ช่องทางนี้ ลูกค้าสามารถเรตให้คะแนน คอมเมนต์ หรือแม้กระทั่งลงรูปเขียนรีวิวให้กับร้านได้ หากร้านไหนมีหน้าร้าน ลูกค้าแวะเวียนมากิน ก็อย่าลืมขอให้เขาชวนคอมเมนต์ใน Google ให้ร้านของเรา ช่วงแรก ๆ อาจขอเพื่อน ๆ และคนใกล้ตัว ช่วยรีวิวให้ก่อนก็ได้

ตัวอย่างการ์ดข้อมูลร้านหรือธุรกิจ

4. Wongnai

Wongnai คือ แพลตฟอร์มรีวิวร้านอาหารยอดนิยมของคนไทย ซึ่งฟีเจอร์ของเขาก็คล้าย ๆ กับ Google My Business ที่ไม่ว่าใครก็สามารถเข้าไปรีวิวและลงรูปเกี่ยวกับร้านได้ เวลาจะไปกินร้านไหน สั่งอาหารร้านไหนดี หลายคนก็เข้าไปอ่านรีวิว ดูรูปใน Wongnai ก่อนนะ ร้านที่ไม่อยากพลาด ต้องรีบสร้างโปรไฟล์บน Wongnai ไว้ก่อนเลย

  1. เข้าเว็บไซต์ Wongnai.com 
  2. ลงทะเบียนหรือเข้าใช้งานผ่าน Gmail
  3. กดลูกศร v เมนูและเลือกเมนู “เพิ่มร้าน / สถานที่” 
วิธีสร้างโปรไฟล์ร้านบน Wongnai

เคล็ดลับสำหรับการสร้างโปรไฟล์ร้านบน Wongnai มีอยู่ 3 ข้อด้วยกัน ได้แก่

  • สร้างโปรไฟล์ร้าน ใส่ข้อมูลให้ครบ
  • ลงรูปร้าน รูปอาหารให้เยอะ ๆ 
  • ที่สำคัญ อย่าลืม! ชวนเพื่อน ๆ และลูกค้ารีวิวร้าน 

5. โฆษณา LINE MAN

โฆษณา LINE MAN เป็นหนึ่งในเครื่องมือตลาดที่สามารถเปิดการมองเห็นร้านค้า ช่วยเพิ่มยอดขาย ขยายฐานลูกค้า โดยพ่อค้าแม่ค้าสามารถกำหนดช่วงเวลาเปิด-ปิดโฆษณา และงบประมาณรายวันได้ด้วยตนเอง ที่สำคัญ! ระบบจะคิดค่าโฆษณาก็ต่อเมื่อมีคนคลิกเข้าชมร้านจากโฆษณาเท่านั้น ทำให้ร้านค้าสามารถมั่นใจได้ว่า การลงทุนทำโฆษณา LINE MAN จะคุ้มค่าแน่นอน

4 ทริคตกแต่งร้านก่อนทำโฆษณา LINE MAN

สร้างความประทับใจให้ลูกค้าตั้งแต่แรกเห็น เพิ่มโอกาสพิชิตใจ สร้างกำไรงาม

  1. ตั้งชื่อร้านคู่เมนูเด็ด จัดเมนูให้ดูง่าย: เพราะลูกค้าจะค้นหาเมนู ก่อนตัดสินใจเลือกร้าน ดังนั้นการตั้งชื่อร้าน โดยระบุเมนูเด็ดของร้านไปด้วย จะทำให้ร้านของเราปรากฎบนผลค้นหา เพิ่มโอกาสดึงดูดลูกค้า นอกจากนั้นการจัดเรียงเมนูให้เป็นหมวดหมู่ ดูง่าย จะสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ทำให้อยากกลับมาซื้อซ้ำรัว ๆ
  2. ตกแต่งรูปปกร้านค้า และรูปอาหารให้สวยงาม: รูปดีมีชัยไปกว่าครึ่ง! เพราะรูปเป็นสิ่งแรกที่ดึงดูดสายตา การใช้รูปที่สวยงาม จะช่วยสร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น เพิ่มโอกาสพิชิตใจลูกค้าได้ไม่ยาก ที่สำคัญ! ควรใช้รูปที่ตรงปก ไม่่จกตา เพื่อที่ลูกค้าจะได้มีประสบการณ์ที่ดีในการสั่งซื้อ เพิ่มโอกาสสร้างลูกค้าขาประจำ
  3. จัดโปรโมชันเด็ดโดนใจลูกค้า: ชนะใจลูกค้า ด้วยราคาคุุ้มค่าโดนใจ สร้างโปรโมชันเด็ด เช่น 1 แถม 1 หรือ ลด 30% เพื่อเพิ่มโอกาสดันยอดออร์เดอร์ให้ปังแบบฉุดไม่อยู่
  4. เข้าร่วมแคมเปญค่าง ๆ จาก LINE MAN: เปิดการมองเห็นอีกขั้น ด้วยการเข้าร่วมแคมเปญจาก LINE MAN พร้อมรับพื้นที่โฆษณาหน้าแอปฯ มูลค่ากว่า 16.7 ล้านบาท ช่วยขยายฐานลูกค้า พร้อมรับสิทธิพิเศษอีกมากมาย

อ่าน 4 เช็กลิสต์ตกแต่งร้านก่อนเริ่มทำโฆษณา LINE MAN เพิ่มเติม คลิก

เริ่มต้นเปิดร้านบน LINE MAN คลิกเลย