แบรนด์ คือ หนึ่งในหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจทุกประเภท เพราะแบรนด์คือสิ่งที่ทำให้ผู้คนสามารถจดจำสินค้า ร้าน หรือธุรกิจของเราได้ นอกจากนี้ การสร้างแบรนด์ยังเป็นสื่อสารออกมาว่า แบรนด์ของเราเป็น ‘คนแบบไหน’ หรือออกแบบมาเพื่อใคร ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำ และยังเพิ่มมูลค่าของแบรนด์ได้อีกด้วย
สำหรับร้านอาหารที่อยากทำแบรนด์ให้แข็งแรงขึ้น หรืออยากเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมาย เช่น จากเดิมที่เคยขายอาหารให้กลุ่มวัยรุ่นเป็นหลัก แล้วอยากปรับให้ภาพลักษณ์ร้านดูเหมาะกับคนวัยทำงานมากขึ้น ก็สามารถทำได้ผ่านการปรับปรุงแบรนด์ใหม่ หรือทำการ ‘Rebranding’ ให้กับร้าน
ในบทความนี้ Wongnai for Business อยากชวนทุกคนมาทำความรู้จักกับการ Rebranding คืออะไร? และ ถึงเวลาหรือยังที่ธุรกิจของเราจะต้องทำการ Rebranding? แล้วมาเปลี่ยนลุคแบรนด์ใหม่ให้คนพูดถึง ด้วยกลยุทธ์ Rebranding ไปด้วยกัน
Rebranding คือ การเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์หรือธุรกิจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าด้วยภาพลักษณ์ใหม่ ๆ ที่ดีขึ้น เพราะเมื่อทำธุรกิจมาได้ระยะเวลาหนึ่ง เปิดร้านมาสักพักจนร้านเติบโตขึ้น ภาพลักษณ์เดิม ๆ อาจไม่เหมาะกับร้านที่กำลังเติบโตขึ้นหรือกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่ร้านอยากจะเข้าถึง
การ Rebranding ให้กับธุรกิจหรือร้านอาหาร จึงเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดที่สามารถทำได้ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย อย่างเช่น การปรับโลโก้ หรือเป็นการเปลี่ยนแปลงใหญ่ขึ้น เช่น การเปลี่ยนชื่อแบรนด์ ซึ่งการ Rebranding นั้นจะช่วยสร้างผลลัพธ์ที่ดีในด้านของภาพลักษณ์และด้านอารมณ์ความรู้สึกที่ผู้คนมีต่อแบรนด์
สำหรับร้านอาหารที่เปิดร้านมาได้สักพัก แล้วไม่แน่ใจว่า ร้านของเราควรจะปรับปรุงภาพลักษณ์ ทำการ Rebranding หรือเปล่า ด้านล่างนี้ คือ เหตุผลสำคัญ ๆ ที่บ่งบอกว่า การทำ Rebranding ร้านอาหารอาจจะช่วยคุณได้
ร้านอาหารหลายร้าน ในตอนแรกที่เปิดร้านอาจจะไม่ได้จริงจังกับการสร้างแบรนด์เท่าไร แต่เมื่อต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้นหรือต้องการให้ร้านเป็นที่จดจำมากขึ้น การทำ Rebranding สร้างแบรนด์ให้แข็งแรง ชัดเจนขึ้น ถือเป็นเรื่องจำเป็น ซึ่งแบรนด์ที่แข็งแรงจะช่วยให้ร้านบุกตลาดได้กว้างขึ้น โดยเฉพาะตลาดบนโลกออนไลน์และฟู้ดเดลิเวอรี
การ Rebranding เพื่อให้ภาพลักษณ์ร้านของเราดูทันสมัยนับเป็นอีกเหตุผลที่ดีเหตุผลหนึ่งในการ Rebranding เพราะเมื่อเปิดร้านมานานอาจจะต้องมีการขยับปรับเปลี่ยนให้ดูทันสมัยตามยุคที่เปลี่ยนไป ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงเปลี่ยนตามกระแส แต่ต้องมีการปรับเปลี่ยนถึงระดับงานในร้านกันเลยทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น การบริการ การทำงาน หน้าตาอาหารและบริการที่ดีขึ้น จึงจะส่งผลดีต่อการ Rebranding ได้อย่างเต็มที่
ในบางธุรกิจอาจจะเลือกที่จะเปลี่ยนกลุ่มตลาดใหม่เพราะได้มองเห็นแล้วว่าตลาดเดิมที่ทำอยู่นั้นอาจมีคู่ แข่งขันในตลาดมากไปหรืออาจจะอยู่ในช่วงการเติบโตที่ช้าจนอาจกลายเป็นขาลงได้ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเพราะกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่เริ่มหันมาให้ความสนใจกับสินค้าและบริการของเรามากขึ้น หรือกลุ่มลูกค้าเก่าที่เปลี่ยนพฤติกรรมไป การ Rebranding สร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับร้าน จะช่วยร้านขยับเข้าหากลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ได้ดีขึ้น
เมื่อร้านต้องการเปลี่ยนแนวทาง เปลี่ยนสไตล์การให้บริการหรือสไตล์อาหาร เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับลูกค้า การ Rebranding สร้างภาพจำของร้านใหม่ให้สอดคล้องกับไปแนวทางที่ร้านอยากจะทำ จะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจได้ง่ายขึ้น
ถ้าหากร้านของเราต้องการขยายตลาด มีการขยายไลน์สินค้าใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้น หรือมีรูปแบบธุรกิจที่แตกต่างไปจากเดิม การทำแบรนด์ให้แข็งแรงขึ้นหรือปรับปรุงแบรนด์ให้สามารถโอบอุ้มไลน์สินค้าได้กว้างขึ้นก็เป็นสิ่งที่จำเป็น ซึ่งการปรับแบรนดิ้งในที่นี้ ไม่ใช่แค่การปรับปรุงโลโก้เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงระบบบริหารที่ดีกว่าเดิม
จากเหตุผลข้างต้น หากร้านของคุณเองก็จำเป็นต้องทำ Rebranding ให้ร้านเช่นกัน สามารถปรับภาพลักษณ์ของร้านได้ด้วยวิธีเหล่านี้
หนึ่งในกลยุทธ์หลักของการ Rebranding ก็คือการเปลี่ยนโลโก้ ซึ่งการใช้โลโก้ใหม่นี่เองที่จะทำให้ลูกค้าของคุณสามารถรับรู้ได้ว่าแบรนด์ของคุณมีความแตกต่าง มีเอกลักษณ์ และช่วยสร้างการจดจำได้ สามารถทำได้โดยเปลี่ยนองค์ประกอบของโลโก้หรือการใช้สีที่แตกต่างกันไป เป็นต้น ซึ่งโลโก้ใหม่ควรปรับปรุงสไตล์ให้เหมาะกับแนวทางใหม่ ๆ ของร้านหรือกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ที่ร้านต้องการเข้าถึง
แบรนด์ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นตัวกลางเชื่อมโยงระหว่างบริษัทกับลูกค้า ดังนั้น หากต้องการวาง Brand Position ของร้านใหม่ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ (Product) ที่ตั้งร้านค้า (Place) ราคา (Price) หรือกิจกรรมที่ส่งเสริมการขาย (Promotion) การกำหนดจุดยืนของร้านให้ชัดเจนหรือวาง Brand Position ใหม่ก็เป็นสิ่งที่จำเป็น ซึ่งการปรับ Brand Position นั้น ไม่ใช่เพียงการเปลี่ยนโลโก้ร้านใหม่ แต่ต้องดูไปถึงแนวทางการสื่อสารต่าง ๆ คอนเทนต์ที่ทำ การบริการ ฯลฯ ด้วย
หลังจาก Rebranding ในข้อต่าง ๆ มาแล้ว ต่อมาสิ่งที่ร้านควรทำ คือ การทำโฆษณาและคอนเทนต์ใหม่ ๆ เพื่อสื่อสารแบรนด์ในภาพลักษณ์ใหม่ให้เป็นที่รู้จัก โดยคำนึงถึงข้อความ โลโก้และแนวทางการสื่อสารที่ต้องการส่งต่อไปยังลูกค้า โดยโฆษณาเหล่านี้ควรสื่อสารถึงการเปลี่ยนแปลงในแบรนด์และสิ่งที่มีความหมายสำหรับลูกค้าเพราะจะ ช่วยดึงดูดกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ เข้ามาได้
เมื่อธุรกิจมีการ Rebranding หนึ่งในสิ่งที่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนตามมาก็คือจำเป็นต้องปรับ Brand voice หรือน้ำเสียงของแบรนด์ด้วย เพราะ Brand Voice จะส่งผลต่อการสื่อสารข้อความหรือคอนเทนต์ในการทำการตลาดไปยังลูกค้าของคุณด้วย ยกตัวอย่างเช่น ร้าน Rebranding จากร้านอาหารสำหรับนักเรียนนักศึกษาเป็นร้านสำหรับคนทำงาน วิธีการสื่อสาร นำเสียงที่ใช้ก็อาจปรับให้ดูโตขึ้น หรือทำคอนเทนต์ที่กลุ่มเป้าหมายใหม่น่าจะสนใจ
การทำ Rebranding ปรับลุคแบรนด์หรือร้านให้สดใหม่ขึ้น ก็เป็นอีกกลยุทธ์การตลาดร้านอาหารที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับร้านที่ต้องการเข้าถึงตลาดใหม่ ๆ หรือต้องการปรับเปลี่ยนแนวทางการทำร้าน ร้านไหนที่กำลังมองหาวิธี Rebranding หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณได้ไอเดียไปปรับใช้กันไม่มากก็น้อย
เริ่มต้นเปิดร้านบน LINE MAN คลิกเลย
ยังมีกลยุทธ์การตลาดร้านอาหารที่น่าสนใจอื่น ๆ อีก อ่านต่อที่นี่