“ช่วงที่เดลิเวอรีเป็นกระแส เราก็มีการปรึกษากับคุณแม่ ว่าจะเข้าร่วมกับโฆษณา LINE MAN ดีไหม ก็ตัดสินใจไม่ผิดครับ ลงทุนโฆษณา LINE MAN แล้วไม่เสียเปล่า จะเห็นได้ชัดเลยว่ามีลูกค้าใหม่เข้ามา กลายมาเป็นลูกค้าประจำเรามากขึ้น พื้นที่ที่ลูกค้าสั่งเดลิเวอรีก็ไกลขึ้นกว่าเดิมด้วยครับ”
- คุณบอส เจ้าของร้านรุ่นที่ 2 ร้านขนมไทยเจ๊หมวย
‘ขนมไทยเจ๊หมวย’ หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ ‘เจ๊หมวย บัวลอยเผือก’ แผงลอยชื่อดังอายุกว่า 47 ปี เปิดขายเฉพาะที่ตลาดเทวกุญชร บนถนนศรีอยุธยา แต่ด้วยคุณบอส ลูกชายคนโต มองเห็นโอกาสว่าร้านของแม่ ก็สามารถเป็นร้านขายดีบนเดลิเวอรี LINE MAN ได้ ตัดสินใจพลิกโฉมร้านเก่าแก่ ลงทุนโฆษณา LINE MAN และใช้ 3 กลยุทธ์จัดการร้านแบบ “จัดหนัก” จนสามารถพาร้านของแม่ก้าวสู่ร้านระดับ “กู๊ด” บน LINE MAN ได้ภายใน 2 ปี
บัวลอยเผือกเป็นเมนูแรกที่หลายคนนึกถึง ด้วยความหอมกะทิ และรสเผือกเข้มข้น จึงเป็นเมนูขายดีของร้านตลอดมา แต่จริง ๆ แล้ว ทุกเมนูของเจ๊หมวยต่างใช้ของดี โดยเฉพาะกะทิสด ทุกเมนูจึงมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นข้าวเหนียวมูน ข้าวเหนียวสังขยา กล้วยบวชชี เต้าส่วน ครองแครง และเมนูอื่น ๆ สลับหมุนเวียนกันตามเสียงเรียกร้องของแฟนคลับ
“แม่ก็ยอมรับนะว่าช่วงแรกไม่ค่อยเข้าใจเขา เพราะลูกค้าประจำเราก็เยอะอยู่แล้ว เขามารับหน้าร้าน มาซื้อหน้าร้านกันแบบนี้มาหลาย 10 ปี แม่ก็ไม่เข้าใจว่าต้องขายบน LINE MAN ด้วยหรอ แต่ก็เปิดใจให้เขาลองทำดู”
เจ๊หมวยยอมรับว่าเริ่มแรกไม่เคยรู้จักการขายบน LINE MAN แต่ด้วย คุณบอส ลูกชายเห็นความสำคัญของการขายเดลิเวอรี จึงพาร้านของแม่เปิดขายบนแอปพลิเคชันเมื่อ 3 ปีที่แล้ว
“ผมอยากลงทุนโฆษณา LINE MAN เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการขายใหม่ และจะได้หาลูกค้าใหม่จากช่องทางนี้ด้วยครับ เราก็ศึกษาว่า การทำโฆษณา LINE MAN มันมีข้อดีตรงที่ช่วยเปิดการมองเห็น หมายถึงว่า ถ้าลูกค้าค้นหาคำว่าขนมไทย หรือค้นหาชื่อเมนูขนมไทยที่ร้านเรามี ร้านเราก็จะขึ้นเป็นอันดับแรก ๆ ให้ลูกค้าได้มองเห็นก่อน มันก็จะเป็นโอกาสที่ลูกค้าจะกดสั่งซื้อของเราเพิ่มมากขึ้นใช่ไหมครับ”
“หลังใช้โฆษณา LINE MAN สิ่งแรกที่เห็นได้ชัดเลยก็คือมีลูกค้าหน้าใหม่เข้ามาสั่งขนมร้านเราเพิ่มขึ้นแบบที่คิดไว้เลยครับ แล้วลูกค้ากลุ่มนี้ก็กลับมาเป็นลูกค้าประจำ คือมีการสั่งซ้ำด้วยช่องทาง LINE MAN แบบเดิม อีกอย่างก็คือเป็นเรื่องของพื้นที่ที่ลูกค้าสั่งซื้อ มันกระจายออกไปไกลมากขึ้นครับ เราอยู่แถวถนนศรีอยุธยา แต่ลูกค้าจากสุขุมวิทก็มี จากปริมณฑลก็มีครับ มันทำให้เราเห็นว่าพอการสั่งมันสะดวกขึ้น มีไรเดอร์ขับไปไกลมากขึ้น ลูกค้าก็อยากจะสั่งมากขึ้น”
“สำหรับการจัดการโฆษณา ก็จะเป็นผมกับแฟนที่ดูแล และจัดการกันเองครับ เพราะมันไม่ได้ต้องลงระบบยุ่งยาก แค่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Wongnai Merchant App ติดมือถือเอาไว้ แล้วก็ปรับงบโฆษณา เปิด-ปิดได้ตามใจเลยครับ วันไหนรู้สึกเงียบ ๆ อยากระบายของมากขึ้น เพราะพวกขนมไทยมันจะเสียง่าย ขายวันต่อวันใช่ไหมครับ เราก็เพิ่มงบไปหน่อย ก็มีลูกค้าเข้ามามากขึ้นครับ”
“ร้านเราเข้าร่วมกับโฆษณา LINE MAN มาได้ไม่ถึง 2 ปีครับ ก็รู้สึกดีใจที่ร้านได้เครื่องหมายการันตีคุณภาพระดับ “กู๊ด” ด้วย เท่าที่ผมดูร้านบนเดลิเวอรีมา ก็คิดว่ามี 3 เรื่องที่ต้องจัดตามนี้ครับ”
“นอกจากจะลงทุนทำโฆษณา LINE MAN อย่างสม่ำเสมอแล้ว ทางร้านก็จะจัดโปรโมชั่นโดยเข้าร่วมแคมเปญที่น่าสนใจบน LINE MAN ครับ อย่างเช่น คูปองส่งฟรี ส่วนลดท้ายบิล หรือจัดโปรโมชั่น ขนม 3 อย่าง แล้วลดราคาลงนิดหน่อย ก็จะเรียกลูกค้าได้มากขึ้นครับ”
“แต่ก่อนคุณแม่จะขายเป็นถุงใสมัดหนังยาง เราก็มีการมาปรับเป็นกระปุกแล้วซีนโลโก้ พอถ่ายรูปสวย ๆ ใส่สีสัน และกราฟฟิกที่เราพอทำเป็นลงไป หน้าร้านบน LINE MAN ของเราก็มีความสดใส ทันสมัย ลูกค้าวัยรุ่นก็อยากจะสั่งมากขึ้น ลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะรู้สึกว่าน่ากิน สะอาดถูกหลักอนามัย”
“การรักษาคุณภาพอาหารเป็นเรื่องที่คุณแม่เขาใส่ใจมาตลอดอยู่แล้วครับ กะทิที่ร้านก็จะไม่ใช้กะทิกล่องเลย ต้องเป็นกะทิคั้นสดเท่านั้น ถึงจะทำยาก และลำบาก ราคาต้นทุนอาจจะสูง แต่ทางร้านก็จะไม่ลดคุณภาพ ตรงนี้ทำให้ร้านเราอยู่มาได้ 47 ปีครับ”
“สำหรับร้านที่ยังลังเลว่าจะลงทุนโฆษณากับ LINE MAN ดีไหม ผมก็อยากให้ลองดูครับ เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทาง ความสะดวก ให้กับลูกค้า ในขณะเดียวกัน ร้านเราก็เป็นที่ถูกใจของลูกค้ามากขึ้น ดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่เข้ามามากขึ้น ดันไปอยู่อันดับต้น ๆ บน LINE MAN ก็ทำให้ออร์เดอร์เข้ามากขึ้น และยอดขายเพิ่มขึ้นจริงครับ บอกเลยว่าลงทุนกับโฆษณา LINE MAN ไม่เสียเปล่าแน่นอน”
เรียนรู้วิธีทำโฆษณา LINE MAN ทำง่ายใน 3 คลิก 👉🏻https://bit.ly/3FSkhD0
โฆษณา LINE MAN คืออะไร? ช่วยเพิ่มการมองเห็นร้านค้าอย่างไร? อ่านเพิ่มเติมที่นี่ 👉🏻https://bit.ly/3m2p6m2
เริ่มต้นสร้างโฆษณา LINE MAN บนแอปฯ Wongnai Merchant App (WMA) คลิกที่นี่